p  ประเทศเปรู อยู่ตรงไหน ต้องเปิดแผนที่โลกแล้วลากนิ้วยาวจากเมืองไทยไปเปรู ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ มาชูปิกชู อันเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ผมลองหาดูเล่นๆแล้วบังเอิญไปเจอเลยเอามาฝากกัน เผื่อใครอยากลอง

   

 

 

{youtube width="500" height="390"}M_gSydN_BYM{/youtube}

   คนไทยอาจรู้จักเปรูและไปเยือนสถานที่มหัศจรรย์ที่สร้างมาแต่โบราณ แต่ไม่ค่อยรู้จัก อาหารเปรู หรือ Peruvian Cuisine เท่าใดนัก ดังนั้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ท่านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเปรู ประจำประเทศไทย โฆรเฆ่ กาสตาเญด้า จึงเปิดบ้านพักในซอยสุขุมวิท 25 ให้ชิมอาหารเปรู ให้รู้จักและเข้าใจความเป็นมาในอาหาร ด้วยอาหารเปรูมีพัฒนาการมาหลายร้อยปี มีความหลากหลาย อาหารมีคุณภาพและรสชาติดี ทำให้เปรูเป็นศูนย์กลางสำคัญของวัฒนธรรมอาหารในทวีปอเมริกาใต้

pv

 ท่านทูตและภริยา พาชิมอาหารเปรูพร้อม แนะนำว่า เนื่องจากเปรูมีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล มีป่าเขาและความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำอเมซอน อีกทั้งมีความหลากหลายของชาติพันธุ์ ภูมิประเทศอยู่ในซีกโลกใต้ อาหารจึงแบ่งออกเป็น 3 ภูมิภาค ได้แก่ เขตชายฝั่ง เขตเทือกเขาแอนดีส และเขตลุ่มแม่น้ำอเมซอน สภาพพื้นที่ทำให้เกิดสภาพอากาศที่แตกต่างกันถึง 78 แบบ และยังแบ่งย่อยออกไปได้อีก 108 แบบ ความหลากหลายเช่นนี้ทำให้เกิดวัฒนธรรมและอาหารที่แตกต่างกันอย่างมาก ถ้านับตั้งแต่ยุคโบราณคือยุคพรีโคลัมเบียน และยุคของเผ่าอินคา-เกชัว ตามด้วยอาหารประจำชาติสเปน-มัวริช อาหารจากแอฟริกา จีน อิตาลี และญี่ปุ่น เราคงนึกแปลกใจว่าเปรู เคยมีนายกรัฐมนตรีเป็นชาวญี่ปุ่น

pv

p

  ทั้ง นี้เพราะชาวญี่ปุ่นได้อพยพเข้ามาอยู่ในเปรู ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และส่งอิทธิพลต่ออาหารทะเลของเปรู แม้ว่าเปรูเวียน ควิซีน ก็มีปลาเค็มและบริโภคปลาและอาหารทะเลเป็นอาหารหลักอยู่แล้ว แต่ชาวญี่ปุ่นก็ได้นำวิธีการแล่ปลาและการปรุงอาหารทะเลเข้ามาสู่ชาวเปรู ทั้งนี้ได้รับการผสมผสานเข้ากับวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น เมื่อผนวกเข้ากับซาสึมิ หรือปลาดิบของญี่ปุ่น ทำให้เกิดเป็นอาหารเมนูใหม่ เรียกว่า ติราคิโต้ หรือบางเมนูของชาวญี่ปุ่นที่มีส่วนผสมของวาซาบิ ก็มาใช้หัวไช้เท้าแทน ใช้มันฝรั่งเพิ่มขึ้นเพราะเปรูเป็นประเทศที่มีมันฝรั่งมากที่สุดกว่า 2,500 พันธุ์ บางตำราระบุว่ามีถึง 3,000 ชนิด ชาวญี่ปุ่นในเปรู ยังเพิ่มส่วนผสมพริกและเหล้าปิสโก้ในจานอาหาร หรืออิทธิพลจากอาหารสเปน ที่รับมาจากอาหารโรมัน ยิว และอาหรับ เข้ามาอีกทอดหนึ่ง กลายเป็นเมนูพิเศษ เช่น การต้มสตูว์และซุป การใช้นมและการทอด
p
  แต่หากถามถึงอาหารเปรูแบบ ดั้งเดิม คุณอาร์ตูโร อาร์ซีเนียก้า ที่ปรึกษาสถานทูตเปรู ให้ข้อมูลว่า คงจะหายากขึ้น หรืออาจพบได้ในแถบชนบท ในพื้นที่ที่เคยเป็นป่าดิบหรือที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมือง ซึ่งได้รับอิทธิพลอาหารจากจักรวรรดิอินคา เน้นใช้สมุนไพร เกลือ และพริก และมีวิธีการถนอมอาหารด้วยการดึงน้ำออกมา และการทำเนื้อเค็มที่เรียกว่า "เจอร์กี้" และโอคา (พืชสายพันธุ์หญ้า) ตากแห้ง และการบริโภคสัตว์ป่าจนถึงอาหารทะเล เขายกตัวอย่างเช่น มีหลักฐานระบุว่า ชาวเปรูโบราณนิยมชมชอบอาหารทะเลมาก อีกทั้งเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เช่น เป็ด อูฐประจำท้องถิ่นแอน เดียน (เรียกว่าตัวอัลปาก้าและตัวยามา) และหนูตะเภา ส่วนชาวเปรูที่อาศัยอยู่ในแถบชายฝั่งทะเลตอนเหนือ มีการกินเนื้อกิ้งก่าบางชนิด และเนื้อกวาง ส่วนผู้ที่อาศัยในเขตป่าฝนทางภาคตะวันออก ก็นิยมอาหารจากพืชผักและสัตว์ป่าอเมซอน

p

  นี่แค่บทเริ่มของอาหารเปรู ที่มีความหลากหลายอย่างที่ท่านทูตแนะนำไว้ ในวันนั้นเราได้ชิม มันฝรั่งเนื้อปู ที่แต่งหน้าตาเหมือนขนมเค้ก ข้างในปรุงด้วยมันฝรั่ง เนื้อปูสดและอโวคาโด รสกลมกล่อมนุ่มนวล มันฝรั่งเป็นอาหารประจำชาติ รวมถึงข้าวโพด ขนมปังเป็นอิทธิพลจากตะวันตก ชาวเปรูกินข้าวเป็นอาหารหลัก และคงมีนาข้าวเขียว ๆ เหมือนบ้านเรา

ส่วน เซบิเช่ หรือยำปลาเนื้อขาวสไตล์เปรู ที่หลายคนบอกว่าคงมาจากซาสึมิของชาวญี่ปุ่น แต่นำมาประยุกต์ใส่น้ำมะนาวที่ทำให้ปลาสุกนิด ๆ และเติมส่วนผสมผักต่าง ๆ เช่น พริกหวาน หอมหัวใหญ่ หอมแดง กระเทียมบด ผักชี ผักกาด ข้าวโพดสุก เหมือนกินปลาทะเลสดยำ หม่ำแล้วสดชื่น ของหวานก็หน้าตาสวย ได้แก่ มูสเสาวรส และ เอ็นคาเนลาโด ขนมเค้กสีคาราเมลหอมหวาน

 

 ที่มา :   http://www.bangkokbiznews.com


 

Go to top