Travel in Loei

  • 7 ของฝาก จากจังหวัดเลย

    รับประกันเลยว่าบทความนี้มาจากใจคนเมืองเลย และคนที่เคยไป จ.เลย แล้วเข้าถึงอารยธรรมอันงดงามน่ารักของจังหวัดเลยแห่งนี้ ซึ่งถ้าได้มาเมืองเลยแล้ว จะซื้อของฝากกลับไปฝากเพื่อนๆ บทความนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ

  • ทำไม จังหวัดเลย จึงน่าเที่ยวมาก ในช่วง Covid-19

    สวัสดีครับสำหรับผู้อ่านทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านข้อความของเอ๊าเลยดอทคอม เว็บไซต์ที่รวบรวมเรื่องราวต่างๆของจังหวัดเลยไว้ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือร้านใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือว่าจะเป็นแค่ร้านข้างทาง หรือเป็นโรงแรมรีสอร์ท หรือเถียงนาเล็กๆ ที่เราไปพบเจอมาเราก็จะนำมาเล่าให้ฟังนะที่นี้   จากวิกฤต covid-19 ที่ผ่านมานั้นทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทุกแห่งทุกแบบในประเทศไทยนั้นได้รับผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่มากที่สุด…

  • ชวนเที่ยวกินบุฟเฟต์ส้มเมืองเลยแท้ แค่คนละ 100 บาท สวนส้มตาอึ่ง

    เลย - ชวนนักท่องเที่ยวกินส้มสีทอง สายพันธุ์เมืองเลยแท้ๆ ที่สำคัญเจ้าของสวนใส่ใจปลูกด้วยเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี

  • หนาวนี้ที่เมืองเลย ปี 2561 มาเมืองเลยยังไงไม่ให้หล่น

    ปีนี้จังหวัดเลย แนวโน้มน่าจะมีอากาศที่หนาวยะเยือกแน่ๆ ปีหนึ่ง เพราะแค่มีความกดอากาศสูงจากจีนผ่านมาแว่บๆตะกี้ก็เล่นเอายะเยือกไปพอสมควร 

  • เที่ยวเมืองเลยหน้าร้อน ไปที่ไหนดี

    จังหวัดเลยไม่ได้มีแต่หน้าหนาวนะครับ หน้าร้อนก็ร้อนได้ใจเช่นเดียวกัน แหมก็เมืองอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลตั้งเยอะ ย่อมจะอยู่ใกล้พระอาทิตย์ที่ร้อนแรงกว่าเตาแก๊สลั๊กกี้เฟลมเป็นไหนๆ

ยอดนิยม

  1. ↵ เมืองเลยรถเช่า Car Rantal : โดยคุณกร เมืองเลยรถเช่า.กร เมืองเลยรถเช่า[ Meung Loei Carrent]และศูนย์รวมรถตู้ให้เช่า

  2. ด้วยความที่แอดมินของเว็บนี้ www.outloei.com แต่ละคน หาความปกติธรรมดาเหมือนชาวบ้านเค้าไม่ค่อยได้ มีอะไรแปลกใหม่ก็อยากไปลอง แต่ขอแบบนอกกระแสหน่อยจะดีกว่า

  3. ทีมงาน Loei Van59 บริการรถตู้ให้เช่า จ.เลย และจังหวัดใกล้เคียง โดยทีมงานคนจังหวัดเลย 100% โทรเลย 085-462-3536

  4. กลับมาอีกครั้งกับ การแนะนำแบบคักๆ กับร้านส้มตำ โคตรอร่อย โคตรนัว แซ่บมาก ของจังหวัดเลย จ้า 10 ร้านต่อไปนี้ ไปกินกันนะ อย่าลืมแชรืให้เพื่อนที่จะมาเที่ยวด้วยนะ เดี๊ยวไปไม่ถูกร้าน เดี๋ยวจะพลาดของเด็ดเมืองเลย

  5.   ด่านซ้ายดินแดนแห่งสัจจะและไมตรี ประเพณีผีตาโขน

  6. รีสอร์ทคุณภาพของจังหวัดเลย กับที่พักสะอาดปลอดภัย ใกล้ตัวเมืองนิดเดียวเท่านั้น ชาญวิจิตรรีสอร์ท ตั้งอยู่ที่ซอยทางเข้าวัดศรีวิชัย (ติดแขวงการทาง จ.เลย) ขับตรงเข้ามาเลยครับ ไม่เกิน 400 เมตร รีสอร์ทจะอยู่ขวามือ 

  7. ร้านอาหารครัวมะเดื่อ บนถนนเลย-ด่านซ้าย ใกล้ กม.0 ร้านอาหารในลำดับต้นๆของจังหวัดเลย โดดเด่นด้วยบรรยากาศและอาหารรสชาดเยี่ยมหลากเมนู ที่จอดรถกว้างขวาง อยู่ใกล้ๆกับสนามไดร์ฟกอล์ฟเลย ไดรวิ่ง เร้นจ์ ก่อนถึงซอยเข้าวัดศรีวิชัย ถ้าหาไม่เจอ โทรติดต่อจองโต๊ะได้ที่ คุณแอ๋ง 081-7092264  ถ้าบอกว่าท่านเห็นร้านนี้จากเว็บเอ๊าเลยดอทคอม ทางร้านยินดีบริการท่านอย่างดี เต็มที่ อย่างสุดใจ  

  8. สัญญารถตู้เมืองเลย : บริการท่านด้วยรถตู้ Toyota ใหม่เอี่ยม ระดับ VIP พร้อมอุปกรณ์เครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย ที่จะช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวของท่านเป็นไปด้วยความสุข

  9. เอ๊าเลยดอทคอม ขอแนะนำรีสอร์ทสุดสวยที่ปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยในการบริการห้องพักทั้งรายเดือนและรายวัน ณ บ้านนาอ้อ จังหวัดเลย "บ้านฟ้าดาว"      ให้บริการห้องพักรายวัน/รายเดือน ประเภท หอพัก/โฮมสเตย์  ที่อยู่ 141 ถนนเลย-เชียงคาน ม.8 บ.หนองมะผาง ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย 42100 โทร. 081-8719371 ห้องพัก deluxe ปกติ 3,200/ห้อง/เดือน ลดเหลือ 2,700 บาท/ห้อง/เดือน รับสิทธิ์ทันทีที่จองภายในเดือน กันยายน 58 นี้เท่านั้น ทำสัญญา 6 เดือนลดทันที 1,000 ทำสัญญา 1ปี พักฟรี 1 เดือน อีเมล์ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. Website www.baanfadow.comค่าเช่ารายเดือน 2,500 – 3,200 บ. ค่าเช่ารายวัน   600 – 800 บ.

เมื่อวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา ผมได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่บ้านแฮ่ และบ่ายวันอาทิตย์นั้น ผมก็ได้เดินสำรวจพืช/ต้นไม้ ที่ปลูกในบริเวณรอบๆบ้านของที่ดินประมาณ 1 ไร่นั้น ไม่น่าเชื่อว่า มีพืชที่เป็นพืชพื้นเมืองที่ผมได้กินอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ค่อยพบในเมืองหลวงกว่า 30 ชนิด

อัญชัน  :
ต้น (เครือ) และดอกที่แสดงในรูป ปลูกไว้หน้าบ้านโดยทำโครงเสา (ภาษาบ้านผมเรียกค้าง) ให้มันเลื้อยไป ซึ่งปลูกไว้รวมกับถั่วพลู มันก็เลื้อยพันกันไป เราทราบกันดีว่านำดอกมาทำเป็นสีทำอาหาร (สีฟ้า) แต่ที่บ้านผมนำดอกสดๆ มากินกับน้ำพริก ป่น (ป่น คือ น้ำพริกที่ทำจากแหล่งโปรตีนชนิดต่างๆ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา กบ เนื้อ หมู ไก่ เป็นต้น) รสชาดก็มันๆ ดีครับไม่ขมเลย
 
ผักกูด  :
ต้นนี้ปลูกทิ้งไว้ที่ข้างบ้าน หลายท่านคงรู้จักดีว่ากินได้ทั้งแบบสดๆ หรือทำให้สุกก็ได้ ไม่ว่าจะทำเป็นผักแนมของน้ำพริก /ลาบ ทำยำ ผัด ต้ม เป็นต้น
 
ชำมะเลียง  :
ที่บ้านเหลืออยู่ 2 ต้น เพิ่งออกดอก ภาษาบ้านผมเรียก  “บักหวด” ต้นนี้ กินได้ทั้งยอดอ่อนและผลของมัน ยอดอ่อนจะ
ทำเป็นผักแนมของน้ำพริก /ลาบ ส่วนผลเมื่อสุกแล้วจะมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจสีม่วงแก่ รสชาดหวานอมฝาดเล็กน้อย
 
ชะพลู  :
น่าจะเป็นผักที่หาได้ทั่วไป แต่จุดเด่นของภาพนี้คือดอกของมัน จะเห็นว่ามีลักษณะคล้ายดอกของดีปลี แต่น่าเสียดายที่บ้านไม่ได้ปลูกดีปลี
 
ท้อไข่  :
ผลไม้ชนิดนี้ผมไม่เคยเห็นแม่ค้าในเมืองหลวงนำมาขายเลยแต่ที่เมืองเลยหาได้ง่าย ลักษณะของมันคล้ายๆกับลูกพูดแต่ลูกพูดจะมีรสออกเปรี้ยวหวานปนขมเล็กน้อย  ผลสุกของลูกท้อไข่นี้ มันจะมีเนื้อข้างในร่วนอ่อนนุ่มเหมือนกำมะหยี่ รสชาดหวานหอม ถ้ายังแก่ไม่เต็มที่จะมีรสฝาด
 
ใบหัวเสือ  :
ผมไม่แน่ใจว่าภาษาภาคกลางเรียกว่าอะไร รสและกลิ่นของผักชนิดนี้ดับคาวได้ดี จึงนิยมกินเป็นผักสดกับน้ำพริก ป่น /ลาบ แต่สิ่งที่ผมแปลกใจก็คือมันมีกลิ่นเหมือนกับออริกาโน ที่ใส่พิซซ่ามาก ไม่แน่ใจว่าเป็นพืชชนิดเดียวกันหรือไม่
 
จิงจูฉ่าย  :
เคยได้ยินคนเรียกว่า . “ผักกาดนา” แต่ถามท่านผู้รู้ซึ่งมีเชื้อสายจีนท่านบอกว่าเป็นผักจิงจู ผักชนิดนี้จะนำมาใส่เกาเหลาเลือดหมู ซึ่งในเมืองหลวงผมยังไม่เคยเห็นร้านไหนทำเลย แต่ที่เมืองเลยมีร้านเกาเหลาเลือดหมูที่ขึ้นชื่อมากใช้ผักชนิดนี้ คือร้านชื่อร้านชื่อ “มะกัน” เปิดขายตั้งแต่ ตี 5 ถึง 10 โมงเช้า อยู่ในซอยหลังโรงภาพยนต์อัมรินทร์
 
ผักเม็ก  :
เป็นผักพื้นเมืองที่ค่อนข้างหาได้ง่าย ในเมืองหลวงก็พอมีให้เห็นบ้าง รสชาดมัน มีขมเปรี้ยวแซมนิดๆ
 
น้ำน้อย  :
ผมไม่แน่ใจว่าภาษาทางภาคกลางเรียกว่าอะไร พืชชนิดนี้มีประโยชน์มากสำหรับคุณแม่ผู้ให้นมบุตร ซึ่งเราจะนำกิ่งลำต้นของมันไปต้มแล้วนำมาให้ณแม่ผู้ให้นมบุตรดื่มเพื่อเร่งน้ำนมให้ออกมามากๆ ส่วนผลของมันที่เห็นในรูปก็กินได้ แต่ละลูกมีขนาดประมาณเท่ากับลูกมะแว้ง (ประมาณ 1 เซนติเมตร)  มีรสชาดหวานอมฝาด
 
ชะมวง  :
อันนี้เป็นพืชพื้นเมืองทางภาคตะวันออก ที่บ้านได้นำมาปลูกไว้ได้ 5-6 ปีแล้ว อาหารที่คุ้นหูคือแกงหมูใส่ใบชะมวง แต่ที่บ้านจะกินทั้งยอดแบบสดกับน้ำพริก กับลาบ และนำมาใส่ต้มยำ ไม่ว่าจะเป็นต้มปลา ต้มไก่ หรือต้มยำทะเล
 
ชงโค  :
ภาษาที่เมืองเลยเรียก “ผักเสี้ยว” นิยมนำยอดอ่อนมานึ่งกินกับน้ำพริก ป่น หรือนำมาแกงใส่ตะไคร้ กับปลาแห้ง หรือกุ้งหอย ปู ปลา แหล่งโปรตีนอื่นๆที่หาได้ (คล้ายแกงเลียง)
 
ส้มป่อย  :
ภาษาที่เมืองเลยเรียก “ส้มปอน” ลักษณะคล้ายกับชะอม แต่มีรสเปรี้ยว นิยมนำยอดอ่อนมาใส่ต้มยำไม่ว่าจะเป็นต้มปลา ต้มไก่ หรือต้มยำทะเล โดยเฉพาะต้มยำไก่ ส่วนใหญ่คนจะคุ้นเคยกับใบมะขามอ่อน แต่ที่บ้านผมจะนิยมใส่ “ส้มปอน” มากกว่า เนื่องจากใบมะขามอ่อนจะมีรสเปรียวกลมออกฝาด  แต่ “ส้มปอน” จะออกเปรี้ยวแหลม
 
ตาว  :
เป็นพืชตระกูลปาล์ม ปกติเราจะคุ้นเคยกับการกินลูกตาวเชื่อมที่มีลักษณะคล้ายกับลูกชิด แต่ที่บ้านผมนิยมนำยอดมาแกง ในลักษณะของต้มเปอะ (ใส่น้ำย่านางคั้น) รสชาดเหมือนแกงหน่อไม้อาจจะมีรสขมปนนิดๆ
 
มะอึก  :
จากที่เห็นในรูปเป็นลูกที่ยังไม่แก่ ลูกที่แก่แล้วจะมีสีเหลือง เวลาจะนำมากินก็จะขูดขนอออกให้หมดจนเลี่ยนเตียน นำใส่ใส่น้ำพริกกะปิ สัมตำ ยำต่างๆ เป็นต้น มีคนเอามะอึกไปเปรียบกับคนหัวล้าน ผมเข้าใจว่าเนื่องจากขนรอบผลของมันเมื่อแก่แล้วจะหลุดร่วงเป็นกระจุกคล้ายคนหัวล้าน
 
บักหลอด  :
ผลไม้ชนิดนี้ผมเคยเห็นบ้างที่ภาคเหนือ แต่ภาคอีสานตอนล่าง หรือภาคอื่นๆ ยังไม่เคยเห็น จึงไม่รู้ว่าภาษาภาคกลางเรียกว่าอะไร ผมเคยเห็นผลไม้นี้ขึ้นห้างเป็นผลไม้นำเข้าราคาแพง ใช้ชื่อว่า “มะปรางญี่ปุ่น” จากภาพนี้ผมถ่ายมาได้เฉพาะต้นของมันเพราะยังไม่ถึงหน้าฤดูของมัน ลักษณะของต้นจะเป็นลักษณะเถาคล้ายเถาวัลย์ หรือต้นไทร ผลเมื่อสุกแล้วจะมีลักษณะรูปร่างและสี คล้ายกับมะเขือเทศราชินี รสชาดของมันจะมีทั้งแบบเปรี้ยวจัด และแบบเปรี้ยวอมหวาน ขึ้นอยู่กับพันธุ์  วิธีการกินที่ผมชอบก็คือ ฝานเอาแต่เนื้อแล้วนำมาแช่น้ำปลาที่คนกับน้ำตาลให้กลมกล่อม ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมงก็จะได้ บักหลอดแช่น้ำปลา 3 รส รสชาดจิ๊ดจ๊าดน้ำลายสอ
 
มันหำอี้มู้  :
ชื่ออาจจะดูว่าไม่สุภาพ แต่ชื่อนี้เป็นชื่อที่เรียกกันตามปกติของบ้านผม และไม่ทราบว่าที่ภาคกลางเรียกว่าอะไร จากลักษณะของมัน เป็นมันที่ออกมาจากเครือเถา ลูกไม่ใหญ่มาก ผิวเป็นขรุขระเป็นตะปุ่มตะปั่ม มีขนาดไม่เกิน5 เซนติเมตร คล้ายๆ กับมันลูกเห็บแต่มันลูกเห็บผิวจะเรียบกว่า
 
เพี้ยฟาน  :
ชื่อของมันผมเข้าใจว่าน่าจะมาจากกลิ่นและรสชาดที่คล้ายกับน้ำย่อยหญ้าอ่อนในไส้ของเก้ง (เพี้ย = ขี้อ่อนในไส้ของสัตว์กินพืช เช่น ช้าง ม้า วัว ความ เก้ง กวาง , ฟาน = เก้ง) พืชชนิดนี้นิยมนำยอดอ่อนมากินกับลาบ/น้ำพริก ป่น
 
กะเพราแดง  :
จากการเดินตลาดในเมืองหลวง พบว่าไม่ค่อยมีกะเพราแดงขาย  ส่วนตัวผมเองชอบที่จะกินกะเพราแดงมากกว่าเพราะมีกลิ่นหอมกว่า
 
ผักคาว  :
ผักชนิดมีกลิ่นและรสคาวเหมือนคาวปลา เพียงแค่จับกลิ่นคาวก็ติดมือแล้ว นิยมนำมากินกับลาบ/น้ำพริก ป่น
 
กระเจี๊ยบขาว  :
ลักษณะคล้ายกับกระเจี๊ยบเขียวที่พบได้ทั่วไปในตลาดเมืองหลวง ภาษาที่เมืองเลยเรียกว่า “บักหม่นเหล่น” นิยมนำมานึ่งกินกับน้ำพริก ป่น
 
ดาหลา  :
พืชตระกูลข่า มีดอกสีแดงสดดังรูป ตอนแรกปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับ แต่ตอนหลังพบว่า หน่ออ่อนของมันก็กินได้ โดยนำมาแกงแบบต่างๆได้ และดอกของมันก็ใช้กินสดกับนำพริก ป่น ลาบ โดยเลือกใช้ดอกแก่ รสชาดอมเปรี้ยวเล็กน้อย
 
ย่านาง  :
พืชชนิดนี้น่าจะรู้จักกันดี ลักษณะต้นเป็นเถา ส่วนใหญ่จะนำใบมาคั้นกับน้ำเป็นน้ำสีเขียว เพื่อใส่ในต้มเปอะ เชื่อว่าน้ำย่านางจะไปลดความขื่น และสารกัดกร่อนในหน่อไม้ได้
 
ส้มกุ้ง  :
ใบเป็นยาง รสชาดเปรี้ยว มีกลิ่นคล้ายกุ้งสด นิยมนำมากินกับลาบ/น้ำพริก ป่น
 
ส้มกบ  :
ใบนำมาทำเป็นใบเมี่ยงห่อ
 
มะตูมแขก  :
ใบมีกลิ่นหอม รสมัน นิยมนำมายอดกินกับลาบ/น้ำพริก ป่น
 
ผักขี้นาก  :
ไม่ทราบว่าภาคกลางเรียกว่าอะไร นิยมนำมานึ่งกินกับน้ำพริก ป่น หรือนำมาทำแกงอ่อมก็ได้
 
ผักอ่อมแซบ  :
ไม่ทราบว่าภาคกลางเรียกว่าอะไร ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ผักอ่อมแซบ คือถ้านำมาทำแกงอ่อม ก็ต้องอร่อยจริงๆ นิยมนำมาทำแกงอ่อม หรือ นำมานึ่งกินกับน้ำพริก ป่น ก็ได้
 
ผักส้าง :
ไม่ทราบว่าภาคกลางเรียกว่าอะไร เป็นไม้ยืนต้น นิยมนำยอดใบอ่อนมานึ่งกินกับน้ำพริก ป่น รสชาดออกขม
 
 
 
 
 
 
 

รถตู้ให้เช่า จ.เลย

ร้านอาหารอร่อย เมืองเลย

สาวสวยเมืองเลย

Go to top