สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 16 ต.ค.56 เครื่องบินโดยสารของสายการบินลาวแอร์ไลน์  เที่ยวบิน QV 301 ได้ประสบอุบัติเหตุตกลงกลางแม่น้ำโขงฝั่งเมืองโพนทอง ตรงข้ามเมืองปากเซ ขณะที่เครื่องเตรียมจะลงจอดที่สนามบินปากเซ โดยเบื้องต้นคาดว่าผู้โดยสารบนเครื่องจำนวน 39 คนได้เสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินแบบATR 2 ใบพัด ซึ่งบินระหว่างกรุงเวียงจันทร์กับเมืองปากเซ



ด้าน นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เครื่องบินแบบ ATR ของสายการบินลาวแอร์ไลน์ เที่ยวบิน QV 301 ได้เกิดอุบัติเหตุตกลงกลางแม่น้ำโขงฝั่งเมืองโพนทอง ตรงข้ามเมืองปากเซ ประเทศลาว ก่อนเครื่องลงสนามบินปากเซ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 39 ศพ ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่

"เท่าที่ทราบเบื้องต้น พบว่ามีผู้โดยสารชาวไทย จำนวน 5 คน แต่ยังไม่ทราบชื่อของคนเหล่านี้ รวมถึงได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่ ต้องรอให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ ทำการตรวจสอบรายละเอียดก่อน"นายเสขกล่าว

สำหรับเครื่องบินลำดังกล่าวบินออกจากท่าอากาศยานวัดไต เวียงจันทน์ เวลา 14.00 น. และมีกำหนดที่จะไปถึงปลายทาง คือเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ในเวลา 15.00 น. แต่ได้ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อเวลา 16.00 น. 

เบื้องต้นพบว่า ที่มาของอุบัติเหตุเกิดจกทัศนวิสัยไม่ดี ที่เกิดจากอิทธิพลของพายุนารี ที่พัดกระหน่ำในพื้นที่ ขณะที่เครื่องบินของสายการบินลาวแอร์ไลน์ ซึ่งมีขาวกัมพูชาเป็นนักบิน บรรทุกผู้โดยสารจากสนามบินวัดไตเพื่อจะลงตามกำหนดเวลา 16.00 น.แต่ก่อนหน้าที่จะลงนั้น พนักงานหอการบินได้แจ้งให้นักบินทราบว่าทัศนวิสัยไม่ดี พายุหนักมากไม่ควรลงจอด แต่นักบินได้พยายามนำเครื่องลง แต่เครื่องถูกกระแสลมพัดและพายุกระแทกแรงมากจนเครื่องส่ายไป-มา

ก่อนเกิดเหตุนักบินได้พยายามนำเครื่องเชิดขึ้น แต่พายุได้พัดให้เครื่องเสียการทรงตัวไปกระแทกเกาะดอนโค ซึ่งอยู่กลางแม่น้ำโขง ใกล้หมู่บ้านสะผ่าย และห่างจากสนามบินนานาชาติปากเซ 3 กม. และผลจากแรงกระแทก ทำให้ตัวเครื่องหักครึ่งและจมลงในแม่น้ำโขง นักบิน ลูกเรือและผู้โดยสาร รวม42 คนเสียชีวิต  ส่วนผู้พบเห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่าเครื่องบินลำดังกล่าวเกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศ ก่อนที่จะตกลงลำน้ำโขง

Go to top