ผู้สื่อข่าวมติชนรายงาน - เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงความคืบหน้าการเข้าตรวจสอบ นายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ ต.บ้านโป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย ว่าเดิมมีพื้นที่ป่าสมบูรณ์ที่เป็นป่าต้นน้ำมากถึง 9 แสนไร่ แต่ปัจจุบันเหลือแต่ภูเขาหัวโล้น มีพื้นที่ป่าเหลืออยู่แค่ 5.1 หมื่นไร่เท่านั้น จากการเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ 8 จุด ร่วมกับนายอำเภอด่านซ้าย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ สามารถตรวจยึดพื้นที่ปลูกยางพารา 8 คดี เนื้อที่รวม 3,064-3-45 ไร่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การบุกบุกพื้นที่ป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ มีกระแสข่าว เป็นของอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทย นายธีรภัทรกล่าวว่า ทราบเรื่องแล้ว แต่เบื้องต้น พบว่าอดีตข้าราชการคนดังกล่าวได้ให้นอมินีคนหนึ่งเป็นคนถือครอง อาจจะสาวไปไม่ถึง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานส่งให้ตำรวจเกือบสมบูรณ์แล้ว หลังจากนี้ต้องให้ทางตำรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อสาวถึงตัวคนทำผิดต้นเหตุให้ได้ต่อไป
 
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงกรณีองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โคกงาม อ.ด่านซ้าย จ.เลย สร้างถนนตัดผ่าพื้นที่สวนยาง ความยาว 632 เมตร ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1.7 ล้านบาท และที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เลย ได้ปรับปรุงถนนลูกรังเชื่อมระหว่าง ต.นาหอ และบ้านนาหอ ต.โคกงาม ระยะทาง 4.8 กิโลเมตร งบประมาณ 1.9 ล้านบาท ว่า ทั้ง 2 สายอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ ก็น่าแปลกใจว่ามีการตัดถนนไปในป่าที่แทบจะไม่มีใครใช้ประโยชน์เลย ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมเอกสารและหลักฐาน ทางกรมป่าไม้จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทันที
Go to top