ชาวบ้านพื้นที่รอยต่อไทย-ลาวร่วมกันลงงมบริเวณปากน้ำเหือง หลังสามเณรฝันเห็นคนโบราณนุ่งห่มขาวมาบอก สุดอัศจรรย์เจอพระพุทธรูปปางทรงเครื่องกษัตริย์อายุกว่า100ปี คาดเป็นพระลาว แต่เอาไว้ที่เดิมใช้โซ่ล่ามกับตอไม้ รอทำพิธีนำขึ้นจากน้ำ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 1 ธ.ค.58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายอมร ภักดิ์จรุง นายก อบต.ลาดค่าง อ.ภูเรือ จ.เลย ว่า มีสามเณรที่จำพรรษาที่วัดศรีทองพัฒนาราม หมู่ 5 บ้านห้วยติ้ว ต.ลาดค่าง ฝันเห็นพระพุทธรูปปางทรงเครื่องกษัตริย์ จมน้ำที่บริเวณปากน้ำสาน (ลำน้ำสาน) รอยต่อแม่น้ำเหืองที่กั้นพรมแดนไทย-ลาว หมู่ 5 บ้านห้วยติ้ว ต.ลาดค่าง ระหว่าง อ.ด่านซ้าย เขตติดต่อ อ.ภูเรือ กับบ้านบ่อแตน แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว
ทั้งนี้ ทางนายก อบต.ได้นำชาวบ้านลงงมหาตรงจุดที่สามเณรบอก โดยมีสามเณรอนาวิน ไชยโสดา อายุ 18 ปี สามเณรลูกวัดศรีทองพัฒนาราม ที่ฝันเห็นพระพุทธรูปร่วมลงงมด้วย เริ่มจากบำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง จากนั้นชาวบ้านประมาณ 10 คน ได้ลงไปในน้ำเพื่องมหาพระพุทธรูปใช้เวลาเพียง 20 นาทีจึงพบพระพุทธรูปปางทรงเครื่อง หรือปางทรงเครื่องกษัตริย์ ในลักษณะท่านั่งสมาธิ มีสนิมเขียวและตะไคร่ขึ้นเต็มไปหมด ส่วนที่เป็นเศียรแยกออก ขนาดหน้าตักกว้าง 80 ซม. สูง 150 ซม. คาดว่ามีอายุกว่า 100 ปี น่าจะเป็นพุทธรูปศิลปะลาว แต่ไม่ทราบว่ายุคใด
พระพุทธรูปปางทรงเครื่องกษัตริย์อายุกว่า100ปี งมได้บริเวณปากน้ำเหือง
จากการสอบถามสามเณรอนาวิน เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงออกพรรษาที่ผ่านมา ชาวบ้านได้การจัดพิธีไหลเรือไฟที่บริเวณดังกล่าว ตนเห็นแสงสว่างขึ้นมาตรงจุดที่พบพระพุทธรูป แต่ไม่ได้สนใจ เมื่อกลับวัดตกกลางคืนฝันเห็นผู้สูงอายุ สวมใส่เสื้อผ้าชุดขาว มาเข้าฝันว่าจุดที่เห็นแสงสว่างตรงนั้นมีพุทธรูปปางกษัตริย์จมน้ำอยู่ให้นำขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้สนใจ จนมาเมื่อวานนี้ 30 พ.ย.58 ได้ไปปรึกษานายอมร ภักดิ์จรุง นายก อบต.ลาดค่าง และนายสมควร ศรีธรรมา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ตกลงว่าจะลองงมหาดู ปรากฏว่ามีจริงตามที่ฝัน แต่ได้เอาลงไปไว้ที่เดิมก่อน
"รอจนถึงวันที่ 9 ธ.ค.58 เวลาบ่าย จะมีพิธีอัญเชิญขึ้นมาบนฝั่ง โดยมีเจ้าหน้าที่จากฝั่งลาว และคณะผ้าป่ามาทอดถวายที่วัด เพื่ออัญเชิญมาไว้ที่วัดศรีทองพัฒนารามต่อไป" สามเณรอนาวิน กล่าว
จะมีการเตรียมอัญเชิญพระพุทธรูปมาไว้ที่วัดศรีทองพัฒนาราม
ด้านนายสมควร ศรีธรรมา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 กล่าวว่า จากวันนี้ไป จะไม่มีการงมพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมาให้ชม หรือให้ใครดูเป็นอันขาด และให้ชาวบ้านจัดเวรยามกันดูแลตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการล่ามโซ่ผูกไว้กับตอไม้ใต้น้ำ เพื่อกันน้ำไหลเชี่ยวพัดหายไป จนกว่าจะถึงวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ที่จะมีพิธีอัญเชิญขึ้นมาจากใต้น้ำอย่างสมเกียรติ.
ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/543157