จาก Nation TV - เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย "เลย - ยุทธการทวงคืนผืนป่า โครงการสวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย พบเป็นสำนักสงฆ์ไม่มีพระจำวัดประจำ โดยบุกรุกป่า ล่วงล้ำลำน้ำสาธารณะ และก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมาย

วันนี้ (14 ก.ค.59) เวลา 06.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พร้อมด้วย ผบ.ตร. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.เดชา ชวยบุญชุม ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าสวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย ตามที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติและรัฐบาล มีการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้าง บุกรุกที่สาธารณะและทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น และได้เข้าดำเนินการสืบสวน สอบสวน จับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา ได้ร่วมกันปิดล้อม ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายข้างต้น ตามหมายค้นศาลจังหวัดเลย ที่ 196/2559 ลง 13 ก.ค.59 และหมายค้น ศาลจังหวัดเลย ที่ 197/2559 ลง 14 ก.ค.59

640 fee6bhca7a7hkfif6k8ah

ผลการตรวจค้นพบว่า สวนป่าหิมวันต์ เลขที่ 191 ม.1 ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นสถานปฏิบัติธรรม ไม่มีพระสงฆ์อยู่ประจำ มีเนื้อที่รวม 193-1-20 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างประกอบด้วย 1. กุฏิ 2 หลัง 2. อาคารปฏิบัติธรรม 1 หลัง 3. อาคารโรงอาหาร 1 หลัง 4. อาคารโรงครัว (กำลังก่อสร้าง) 1 หลัง 5. บ้านพักผู้ปฏิบัติธรรม 150 หลัง 6. บ้านพักรับรอง 3 หลัง

และได้ตรวจพบการกระทำความผิด คือ 1) มีการสร้างอาคาร (กุฏิ) รุกล้ำเข้าไปในลำห้วยน้ำข้าวมัน อันเป็นความผิดฐาน "ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น" ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และมีความผิดตาม ม.9 (108 ทวิ) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ "ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และ 2) มีการยึดครองที่ดินที่เป็นทางสาธารณะประโยชน์ อันเป็นความผิดฐาน "เข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือ เผาป่าฯ" และมีความผิด ตาม ม.9 (108 ทวิ) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ "ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์" ตาม ป.อาญา ม.3603) มีการออกหลักฐาน นส.3 ก อันเป็นเท็จ รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้าและป่าภูเรือ จำนวน 45-0-72 ไร่ (จากการรวม นส.3 ก จำนวน 10 แปลง มีเนื้อที่รวม 84-3-21 ไร่ ไปเป็น นส.3 ก ฉบับเดียว โดยออกให้ในชื่อ พระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือพระธัมมชโย แต่กลับมีเนื้อที่เพิ่มขึ้นเป็น 129-1-10 ไร่)อันเป็นความผิดฐาน "ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น" ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484, "เข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือ เผาป่าฯ" และมีความผิดตาม ม.9 (108 ทวิ) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.144) มีการขุดเจาะน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาตและลึกเกินกว่ากฎหมายกำหนด อันเป็นความผิดฐาน "ประกอบกิจการน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตาม ม.16 พ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ศ.2520 (5) พบไม้กระยาเลยแปรรูปหวงห้าม (ไม้ประดู่) 256 แผ่น/เหลี่ยม คิดเป็นปริมาตรไม้ 3.99 ลบ.ม.

จึงได้แจ้งข้อหาและจับกุมตัว นายบุญเพ็ง สุวรรณชาติ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 ม.1 ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งรับเป็นเจ้าของไม้ส่วนข้อหานั้น ประกอบด้วย "มีไม้กระยาเลยหวงห้ามแปรรูปไว้ในความครอบครองเกิน 0.20 ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต" และ "รับไว้ด้วยประการใดๆ ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียซึ่งของที่ตนรู้ว่ามีผู้ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย" ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และนอกจากนี้ ยังพบการกระทำความผิดที่ ลำห้วยน้ำข้าวมัน บ้านกกโพธิ์ ม.8 ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย6) มีการก่อสร้างฝายน้ำล้น ปิดกั้นทางเดินน้ำ ในลำห้วยน้ำข้าวมัน ซึ่งเป็นความผิดฐาน "ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น" ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และมีความผิดตาม ม.9 (108 ทวิ) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ "ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์" ตาม ป.อาญา ม.360 ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป"

อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/social/378509285/

Go to top