ผมเดินทางตามหาโฮมสเตย์แห่งหนึ่งในอำเภอด่านซ้าย ในขณะที่แดดกำลังร้อนเปรี้ยง ผมไม่ทราบว่าคิดอะ
ไรอยู่ถึงได้รีบอยากออกมาถ่ายรูปขนาดนั้น โฮมสเตย์ที่ว่านี้ อยู่ถนนเส้น ด่านซ้าย-นาแห้ว ออกจากเมืองด่านซ้ายมาเล็กน้อย
ดูท่าจะไปได้สวย มีป้ายบอกทางเป็นระยะ แต่ไม่ทราบพิกัดที่แน่ชัด ผมวนรถกลับมาอีกรอบตามป้าย แต่ไม่พบเช่นเคย คิดในใจว่าอาจอยู่ในซอย ดังนั้นจึงเลี้ยวเข้ามาที่หัวมุมโค้งแรกตามเส้นทางที่ไม่ไกลจากปากทางถนนใหญ่นัก ผมไม่พบโฮมสเตย์ที่โฆษณาตัวเองหราบนหน้าเว็บไซต์ แต่พบกับที่แห่งนี้
เปล่าครับ วัดแห่งนี้ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร ถ้าไม่ใช่คนในหมู่บ้านหรือตัวอำเภอก็ยากที่ใครจะรู้จัก เมื่อช่วงต้นปีผมเคยมาแก้ราหูที่วัดนี้เพื่อความสบายใจของครอบครัว และไม่ได้จดจำอะไรมากนัก วันนี้แวะมาด้วยความรู้สึกเย็นยะเยือก ทั้งที่แดดแรงมากความตั้งใจแรกคือแวะพักแล้วหาเป้าหมายต่อ แต่พอนั่งไปสักพัก ผมคิดว่าผมพบเป้าหมายแล้ว
หากคำว่าโฮมสเตย์ คือที่พักที่เราไปใช้ชีวิตร่วมอยู่กับวิถีของเจ้าของสถานที่ ร่วมสังคมความเชื่อ ชีวิตประจำวัน ขนบธรรมเนียม ตลอดจนพิธีกรรมต่างๆ ผมว่าวัดก็อาจเรียกได้ว่าเป็นที่พักโฮมสเตย์ได้เช่นกัน ในขณะจิตที่กำลังถ่ายภาพภายในวัด ผมเห็นสรรพสัตว์หลายชนิด เยื้องกรายอยู่ที่แห่งนี้ แมวสองสามตัวบนศาลาเก่าหน้าทางเข้าวัด บางตัวกำลังเพลินกับอาหารที่เหลือจากเพล ส่วนตัวอื่นๆ อาศัยศาลาเก่าแก่ตรงนั้นสงบอารมณ์ ที่ต้นมะม่วงท้ายวัด ผมได้ยินเสียงครอบครัวนกที่มาอาศัยทำรังที่โฮมสเตย์แห่งนี้กำลังส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ผมไม่เห็นงูแต่พบคราบเก่าของมันที่ลอกเอาไว้ เหล่านี้ยังไม่รวมสุนัขหลายๆพันธุ์ หลายๆสี หลายๆอาการ ซึ่งเป็นขาประจำของโฮมสเตย์นี้
ในความเชื่อของวิถีแห่งพุทธ ผู้ที่ตายไปแล้ว ลูกหลานญาติๆจะเก็บอัฐิบรรจุไว้ในที่เก็บอัฐิ ผมพบเห็นที่เก็บอัฐิซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังสุดท้ายของผู้ตาย เรียงอยู่เต็มกำแพงวัดแห่งนี้ด้านทิศเหนือ ด้วยจิตที่ไม่มีเจตนาลบหลู่นี่อาจเรียกโฮมสเตย์ตามหลักความเชื่อและพิธีกรรมของคนในท้องที่นั้นก็ได้ นึกถึงตรงนี้แล้วจิตผมเงียบไปชั่วเวลาหนึ่ง นั่นสิ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใดแต่เมื่อมาอยู่ที่นี่ ก็ต้องปรับให้เข้ากับวิถีของที่แห่งนี้ กินอย่างไรก็ต้องกินให้ได้อย่างนั้น เขาให้พักที่ไหน ตรงไหน ก็ต้องอยู่แบบนั้น
ผมพาตัวเองมานั่งพักแบบชั่วคราวใต้ต้นมะม่วงตรงข้ามศาลาการเปรียญหลังเก่า ตั้งแต่เข้ามายังไม่เห็นพระสักรูปเดียว มีแต่กุฏิสี่ห้าหลังเท่านั้น เงียบ สงบดีสมเป็นวัดจริงๆ เดินเก็บภาพอีกสักครู่ก่อนที่จะขึ้นรถกลับ พลันได้ยินเสียงสวด บทหนึ่งดังขึ้น น้ำเสียงค่อนข้างมีอายุ ผมหันไปตามเสียงนั้น ปรากฏร่างของพระสงฆ์วัยชราภาพ 2 รูป กำลังสวดมนต์อยู่บนกุฏิ แปลกที่เมื่อสักครู่ผมมองไม่เห็น ทั้งสองท่านยังดูแข็งแรงดี สนทนากันอย่างคล่องแคล่ว ไม่มีอุปสรรคในการได้ยิน ผมกราบลา 2 ผู้ชราภาพเมื่อผ่านไปสักระยะ แล้วถีบตัวเองออกมา รู้สึกดีใจที่ผู้ดูแลโฮมสเตย์ทั้งสองรูปยังยึดถือวิถีแห่งพุทธและพิธีกรรมอันน่าเลื่อมใสตามความเชื่อของคนในสังคมนั้นอยู่....โฮมสเตย์แห่งนี้ไม่มีการโฆษณาบนเว็บไซต์ครับ ต้องเดินทางมาค้นพบเอง ใช้ชีวิตเอง อยู่ร่วมกับสถานที่ตามวิถีของสังคมนั้น...นี่ละมั้ง โฮมสเตย์