" อยากกินแกงส้ม" เสียงเล็กๆของแม่เอ่ยขึ้นตอนประมาณบ่ายสาม ไม่พูดเปล่า หาอุปกรณ์มาครบเลย แกใช้ปลานิลครับวันนี้ ต้มปลาแล้วแกะเอาแต่เนื้อ เตรียมผักไว้สามสี่อย่าง รอแค่จ่าไปทำการสำแดงฝีมือ
ไม่ได้ถามว่าส่วนหัวและก้างไปไหน เอามาต้ม บีบมะนาว พริกป่น น้ำปลา โรยต้นหอมผักชี ซดร้อนๆก็เข้าทีนะครับ มาว่ากันถึงแกงส้ม แม่เตรียม หัวไชเท้า แครอท กับมะละกอหั่นเป็นชิ้นไว้แล้ว จ่าเห็นว่า ถั่วพูที่บ้านมีเยอะมากจนล้นตู้เย็น เก็บไปขาย แจกเพื่อนบ้านก็ยังไม่หมด ออกอากาศเรื่อยๆจนแทบไม่มีที่ไว้ อย่ากระนั้นเลย เอามาใส่แกงส้มซะหน่อย ลดปริมาณลงไปบ้าง
นอกจากวัตถุดิบที่กล่าวมาข้างต้นแล้วที่ขาดไม่ได้คือเครื่องปรุง เป็นต้นว่า มะขามเปียก อันนี้ขาดไม่ได้จริงๆ น้ำตาลปี๊บ ถ้าไม่มีก็ใช้น้ำตาลทรายแดงได้ เกลือป่น จ่าใช้เกลือปรุงทิพย์ ถุงละ 10 บาท ใครจะใช้ถุงละ 20 บาทก็ได้นะครับ เค็มเหมือนกัน และ พริกแกงส้ม สมัยนี้เขามีขายเป็นซองแล้ว จ่าใช้ยี่ห้อคุณลำดวน 1ซองต่อหนึ่งหม้อกำลังดี ส่วนใครใคร่โขลกพริกแกงเองก็ตามสะดวกครับ จ่าไม่ค่อยสะดวก ปวดหลังนิดหน่อย
เรามาดูวิธีทำพร้อมภาพประกอบสุดแสนจะดิบเถื่อนกันได้เลย
ต้มปลานิล แล้วแกะเอาแต่เนื้อนะครับ ก้างเอาไปให้ อิขาว แมวข้างบ้าน
ปลานิลตัวเล็ก จ่าเกรงจะไม่เข้มข้น เลยไปสอยปลากระป๋องมาร่วมงานอีก 1 กระป๋อง ยี่ห้ออะไรนั้นอย่ากังวล
เทปลาทั้งสองประเภทลงในครก แล้วบดขยี้ให้พอละเอียดด้วยสากไม้
หย่อนเครื่องแกงลงไป 1 ซองแล้วโขยกให้เป็นเนื้อเดียวกับเนื้อปลา
มะขามเปียก จ่าใช้น้ำอุ่นจากการต้มปลานิล เทลงไป กะเอาให้ได้สามทัพพี
ใช้มือขวาแบบพี่หนุ่ย ขยำเนื้อมะขามเปียกแล้วคั้นเอาส่วนกากทิ้งไป
ตั้งไฟ ใช้น้ำที่ต้มปลานิลนั่นละครับ เดือดแล้วก็เอาส่วนผสมที่โขลกในครกลงไป คนให้แตกจากกัน ปรุงรสทันทีด้วยน้ำตาลกับเกลือก่อน
ให้ออกรสหวานนิดๆ เค็มปะแล่มๆไว้ ก่อนจะหยอดน้ำมะขามเปียกไป สองทัพพี ชิมให้ได้สามรสแล้วใส่ผักลงไปทุกอย่าง ยกเว้นถั่วพู
จากนั้น เติมน้ำให้พอท่วมผัก ขยักเกลือป่นเพิ่มเล็กน้อยเนื่องจากเราเติมน้ำไป ตามด้วยน้ำมะขามเปียกทัพพีสุดท้าย
ปิดฝาทิ้งไว้ 15 นาทีครับ
ระหว่างนั้นจ่าก็ไปล้างมือเพื่อมาเด็ดถั่วพูเป็นท่อนๆ ท่อนละประมาณ 1 นิ้ว ละเอียดไปไหน
ตอนแรกจะใส่เยอะๆ แต่ผักอื่นๆก็จะล้นหม้อแล้วเลยเอามาใส่แค่พอให้ปิดตู้เย็นได้
เมื่อถึงนาทีที่ 10 เปิดฝาหม้อที่เดือดปุด ลืมบอกไปวันนี้ใช้หม้อค่อนข้างใหม่ ดูมีอนามัยกว่ากระทะใบนั้น
เติมถั่วพูลงไป คนเล็กน้อยในนาทีที่11 แล้วปิดฝา ต้มต่อไปอีก สามนาที
จัดการหุงข้าวให้เรียบร้อยนะครับ เดี๋ยวเซ็งไม่มีข้าวสวยกินกับแกงร้อนๆ หน้าตาออกมาแบบนี้ รสชาดเข้มข้นมาก แซ่บไม่แพ้ผัดฟักทองวันนั้นเลยทีเดียว
แล้วการสงครามก็ได้เริ่มขึ้น เมื่อทุกคนมาพร้อมหน้า...