จบไปแล้วกับเกมสุดเดือดของศึกดาร์บี้แมตช์ในโซนภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ซึ่งเป็นการปะทะกันของทีมดังอย่าง ''ผีตาโขนออกศึก'' เลย ซิตี้ รับการมาเยือนของทีมน้องใหม่ไฟแรง ''ลำดวนเพลิง'' ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด แม้บทสรุปจะจบด้วยเหตุที่บานปลายของหลังเกมการแข่งขัน ซึ่งในส่วนของการแข่งขันถือเป็นวันน้ำตาร่วงของเหล่า ''ผีตาโขน'' ที่ในฤดูกาลนี้ต้องชวดต่อการเข้าสู่รอบแชมเปี้ยนส์ ลีกเป็นสมัยแรก
{youtube}NuCwh5pnPG8{/youtube}
อาจจะแปลกตาทีเดียวเมื่อฤดูกาลนี้ในเวทีพื้นของ ศึกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีกจะไม่มีทีม "ผีตาโขนออกศึก" เลย ซิตี้ หลังจากฤดูกาลก่อนหน้าที่สามารถวาดผลงานเข้าไปเล่นในรายการที่ยิ่งใหญ่แห่ง นี้มาถึง 3 สมัยติดต่อกัน ด้วยผลงานที่สุดสะเด่าพร้อมนักเตะชื่อก้องที่นำเข้ามาเสริมในทีมมากมาย แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถยืนหยัดและติดเป็น 1 ใน 2 ของรอบแบ่งกลุ่มมินิลีกได้ในที่สุด
มาฤดูกาลนี้ทีม เลย ซิตี้ มีการบริหารทีมใหม่ด้วยการประหยัดงบประมาณมากขึ้น บริหารด้วยระบบความมั่นคงของสโมสรด้วยการจำกัดเพดานค่าเหนื่อยของผู้เล่นใน ทีม พร้อมกับผลักดันนักเตะเยาวชนในจังหวัดให้เข้ามาสู่ทีม ทำให้การเปิดบ้านต้อนรับทีม "ลำดวนเพลิง" ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด ถือเป็นงานที่ใหญ่โขทีเดียวกับประสบการณ์ของผู้เล่นในทีมชุดนี้ เนื่องจากลูกทีมของ สุรศักดิ์ จุมพลตรี กุนซือทีมผู้มาเยือนต่างมีผู้เล่นในทีมที่ล้วนมีประสบการณ์สูง ไม่ว่าจะเป็น ภูษิต พงษ์สุระ, ปรีชา เขื่อนคำ, วัชรพงษ์ สมานทอง ที่กล่าวมาถือเป็นจอมเก๋าในสนามแทบทั้งสิ้น
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสถานการณ์ที่เป็นต่ออยู่มาก เนื่องจากมีคะแนนมากกว่าทีม เลย ซิตี้ อยู่ถึง 5 คะแนนทำให้การมาย้อนเกมนี้ ฝั่ง "ลำดวนเพลิง" ขอเพียง 1 คะแนนก็ถือว่าเพียงพอต่อการเข้าสู่รอบแชมเปียนส์ ลีกแล้วนั้นเอง ทำให้ "โค้ชตี๋" วิทยา แสนสมบัติ กุนซือใหญ่ของทีม เลย ซิตี้ ต้องส่งผู้เล่นสดผสมแข้งกำลังสำคัญเพื่อต้านผู้มาเยือนอย่าง ยุวราช ดำสูงเนิน, เปรม ลามมา, ธีรพงษ์ ไชยยา พร้อมแข้งต่างชาติคุณภาพอย่าง แพททริค ซันเดย์ และ สตีเฟน อายี่
ทำให้เริ่มเกมได้ไม่นานก็สามารถเพิ่มสกอร์ให้เจ้าบ้านได้เป็น ฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 1-0 ใน น.17 จากการขึ้นโขกเต็มหัวของ สตีเฟน อายี่ ในจังหวะลูกเตะมุมทำให้เจ้าบ้าน เลย ซิตี้ ขึ้นนำไปก่อน 1-0 หลังจากนั้นสถานการณ์ของ ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด ถือว่าไม่สู้ดีนักเนื่องจากเล่นเกมบุกไม่ขึ้นพร้อมกับโดนทีม เลย ซิตี้ กระหน่ำเกมรุกเข้าใส่ในหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังได้ ภูษิต พงษ์สุระ นายทวารจอมเหนียวของทีมที่สามารถป้องกันลูกอันตรายเอาไว้ได้หลายจังหวะในเกม นี้
แต่แล้วด้วยความไม่ละเอียดพอของผู้เล่นทีม เลย ซิตี้ ในชุดนี้ ต้องมาโดนตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.45+2 จากการขึ้นเกมมาทางด้านขวาของ ไพรสณฑ์ ฮุนทวีชัย และเปิดบอลมาที่หน้าประตู ในจังหวะนี้แนวรับของทีม เลย ซิตี้ ไม่มีใครตามประกบทางด้านของ พงษ์พิทักษ์ แก้วสมบัติ ปล่อยแข้งรายนี้ได้โหม่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงามและเป็นประตูสำคัญทำให้ ต้องจบด้วยการเสมอกันไป 1-1 ในท้ายที่สุด
แม้ช่วงท้ายเกม เลย ซิตี้ จะพยายามบุกอย่างหนักและด้วยความกดดันกับสกอร์ที่มีผลต่อทีมอย่างมาก ทำให้เกิดอารมณ์ต่อผู้ตัดสินในสนามเนื่องจากบางมุมมองอาจพ้องไม่ตรงกัน จึงเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายต่อมาในหลังเกมการแข่งขัน แต่ในส่วนของการแข่งขันการทำได้เพียงแค่เสมอต่อ ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด ไป 1-1 เก็บได้เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น จึงทำให้ไม่เพียงพอต่อการเข้าสู่รอบแชมเปี้ยนส์ ลีกไปในฤดูกาลนี้เป็นสมัยแรกในรอบ 4 ฤดูกาล
ที่มา : http://www.siamsport.co.th/Column/120918_177.html