"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลชุดสำรองเล่นดีได้ใจเดอะ ค็อปหลังบุกคว้าชัยนัดเปิดสนามยูโรป้า ลีกเหนือยัง บอยส์ เบิร์นมันสุดติ่ง 5-3 โดยอังเดร วิสดอมเจ้าหนูดาวรุ่งเปิดซิงมีชื่อทำสกอร์รวมถึงจอนโจ้ เชลวีย์สวมบทเป็นซูเปอร์ซับเหมาสองได้ใจบีร็อดกันไป
ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ
วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน 2555
ยัง บอยส์ เบิร์น 3-5 ลิเวอร์พูล 
สนาม : สต๊าด เดอ ซุสเซ่
ประตู : 0-1 ยูฮานี่ โอยาล่า (ทำเข้าประตูตัวเอง) น. 4, 1-1 ราฟาเอล, นุซโซโล่ น.38, 1-2 อังเดร วิสดอม น. 40, 2-2 ยูฮานี่ โอยาล่า น. 53, 3-2 ยูโลจิโอ ซาราเต้ น. 63, 3-3 เซบาสเตียน โคอาเตส 67, 3-4 จอนโจ้ เชลวี่ย์ น.76, 3-5 จอนโจ้ เชลวี่ย์ น. 88
เบรนแดน รอดเจอร์สเปลี่ยนผู้เล่นจากเกมเสมอซันเดอร์แลนด์ทั้ง 11 คนส่งบรรดาตัวสำรองและดาวรุ่งลงมาเก็บประสบการณ์ในเวทียุโรปเพราะทีมจะมี แมตช์สำคัญ"แดงเดือด"กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดวันอาทิตย์นี้
ตำแหน่งผู้รักษาประตูตกเป็นของแบรด โจนส์ที่ลงมาเฝ้าเสาแทนเปเป้ เรน่าส่วนกองหลังอังเดร วิสดอมจากทีมเยาวชนได้โอกาสลงมายืนแบ็คขวาตรงกลางเจมี่ คาร์ราเกอร์จับคู่กับเซบาสเตียน โคอาเตสและด้านซ้ายโฆเซ่ เอ็นริเก้หายเดี้ยงกลับมาประจำการ
แผงกองกลางมีนูริ ซาฮินคอยบงการเกมร่วมกับจอร์แดน เฮนเดอร์สันโดยมีซูโซ่เพลย์เมคเกอร์ดาวโรจน์รับโอกาสลงมาปั้นเกมรุกและปีก ด้านซ้ายเป็นหน้าที่ของอุสซามะ อัสไซดี้ปีกตัวใหม่ที่ได้ประเดิมสนามนัดแรกและมีสจ๊วร์ต ดาวนิ่งวิ่งขึ้นลงด้านขวาพร้อมทิ้งดานี่ ปาเชโก้ยืนเป็นหัวหอกเดี่ยวในเกมนี้
ครึ่งแรก
ไม่ทันไรเจ้าถิ่นจัดให้หงส์นำแต่ไก่โห่
เริ่มเกมยังไม่ทันไรลิเวอร์พูลมาได้ประตูแบบสุดเหลือเชื่อเมื่อสจ๊วร์ต ดาวนิ่งลากบอลไปจนสุดเส้นฝั่งขวาก่อนตวัดเข้ากลางบอลทำท่าจะไม่มีอะไรแต่คริ สตอฟ สไปเชอร์พยายามโหม่งเคลียร์ไปโดนหัวของยูฮานี่ โอยาล่าที่ยืนอยู่ใกล้กันบอลกระเด้งเข้าประตูไปแบบงงกันทั้งสนามในนาทีที่ 4 เท่านั้น
ยัง บอยส์เกือบตีเสมอทันควัน
หลังจากเสียประตูยัง บอยส์เกือบได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วจากจังหวะเปิดบอลยาวข้ามหัวเจมี่ คาร์ราเกอร์ให้ราอูล มาร์เซโล่ โบบาดิลล่าเกี่ยวบอลลงอย่างสวยก่อนสับด้วยขวาเต็มข้อแต่แบรด โจนส์ใช้ปลายนิ้วปัดออกข้างเสาได้อย่างหวุดหวิด
ลุงเอ๋อทำเสียวเกือบเสียจุดโทษ
เข้ามาถึงนาทีที่ 12 ลิเวอร์พูลกำลังบุกเพลินๆแต่กลับเสียบอลกลางสนามให้ผู้เล่นเจ้าถิ่นดาหน้า สวนกลับมาเป็นแผงก่อนที่จะจ่ายบอลจังหวะสุดท้ายให้เพื่อนร่วมทีมเข้าทำประตู แต่เจมี่ คาร์ราเกอร์ยังหอบสังขารวิ่งมาทันเบียดมาริโอ ไรมอนดี้ล้มลงในกรอบเขตโทษบอลไหลไปเข้ามือแบรด โจนส์แต่กรรมการไม่เป่าว่าเป็นการฟาวล์
อัสไซดี้ส่องไกลได้ลุ้นเหมือนกัน
"หงส์แดง"กลับมาเป็นฝ่ายครองเกมบุกได้มากกว่าแต่ยังไม่ค่อยมีจังหวะเข้าทำใน พื้นที่สุดท้ายและมาถึงนาทีที่ 23 อุสซามะ อัสไซดี้ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษโล่งๆก่อนตัดสินใจยิงด้วยขวาทันทีบอลติด บล็อกออกหลังได้ลูกเตะมุม
ยัง บอยส์ชวดโทษอีกครั้ง
น.ที่ 33 สก๊อตต์ ซุตเตอร์ได้บอลมุดเข้ามาในกรอบเขตโทษด้านขวาโดยมีโฆเซ่ เอ็นริเก้ที่โกนหัวเกลี้ยงในลุคใหม่พยายามรั้งเอาไว้ก่อนล้มลงไปในกรอบเขต โทษแต่ผู้ตัดสินให้ฟาวล์ตั้งแต่จังหวะแรกนอกกรอบเสียก่อนทำให้นักเตะเจ้า ถิ่นโวยวายกันพอเป็นพิธี
ในตอนนี้เกมกลับมาเป็นของเจ้าถิ่นอย่างเต็มรูปแบบโดยเหล่านักเตะ"หงส์ แดง"พยายามลงไปเล่นเกมรับบ้างแต่ยัง บอยส์ก็ไม่มีจังหวะยิงให้แบรด โจนส์ต้องออกแรงสักครั้ง
ซูโซ่โชว์ของก่อนหงส์โดนยิง
อีกไม่กี่นาทีต่อมาซูโซ่ดาวรุ่งชาวสเปนได้โอกาสโชว์เลี้ยงแหวกแผงกองหลังของ ยัง บอยส์เข้าไปจนถึงหน้าปากประตูแต่กลับไม่ยอมยิงก่อนตัดสินใจผ่านบอลเข้ากลาง จะให้ดานี่ ปาเชโก้ที่ยืนรออยู่แต่กองหลังเจ้าถิ่นดักตัดเอาไว้ได้แบบหวุดหวิด
มาถึงนาทีที่ 37 แนวรับของ"หงส์แดง"ก็พลาดจนได้ในจังหวะที่โฆเซ่ เอ็นริเก้เจ้าเดิมบังบอลหน้าปากประตูแต่ไม่ยอมเคลียร์ทิ้งก่อนที่จะมีนักเตะ เจ้าถิ่นมาปั๊มบอลกระฉอกไปถึงราฟาเอล นุซโซโล่ที่จับบอลได้ก่อนฉวยโอกาสยิงเร็วบอลเสยตาข่ายตีเสมอได้สำเร็จ
วิสดอมโขกเต็มหัวหงส์นำอีกดอก
เสียประตูไม่ถึง 1 นาที"หงส์แดง"ได้จังหวะเตะมุมที่นูริ ซาฮินเปิดด้วยซ้ายมาหน้าปากประตูและเป็นอังเดร วิสดอมที่ได้โอกาสทองโถมขึ้นโหม่งเหนือตัวประกบบอลพุ่งวาบเข้าไปซุกอยู่ก้น ตาข่ายเป็นประตูออกนำให้อะคันตุกะอีกครั้ง
หลังจากนั้นอีกนิดเดียวยัง บอยส์ได้บุกขึ้นมาบ้างและเป็นอเล็กซานเดอร์ ฟาร์เนรุดได้สับด้วยซ้ายเต็มข้อระยะกว่า 30 หลาบอลพุ่งเลียดไปชนโคนเสาซ้ายกระเด้งออกหลังอย่างน่าเสียดายโดยที่แบรด โจนส์พุ่งสุดตัวแต่ไปไม่ถึงแล้ว
ครึ่งหลัง
หงส์ทักทายก่อน
เริ่มเกมครึ่งหลังเหล่านักเตะ"หงส์แดง"เปิดเกมบุกทันทีก่อนที่อุสซามะ อัสไซดี้จะได้จังหวะเลี้ยงหลบกองหลังเจ้าถิ่นด้านซ้ายของกรอบเขตโทษพร้อมกับ ตวัดเต็มข้อด้วยขวาข้างถนัดบอลพุ่งฮุคติดไซร้ก้อยเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกหลังไป นิดเดียวเท่านั้น
หลังจากนั้นแผงหลังลิเวอร์พูลในวันนี้ค่อนข้างจะสกัดบอลกันมั่วไปหมดแต่โชค ยังดีที่ไม่เจอกับทีมแข็งนักทำให้ไร้จังหวะอันตรายแม้จะพลาดกันหลายครั้ง
จุดอ่อนหงส์ออกฤทธิ์ยัง บอยส์ตีเสมอสำเร็จ
ทำนบของลิเวอร์พูลมาพังครืนอีกครั้งกับลูกเดิมๆเมื่อราอูล มาร์เซโล่ โบบาดิลล่าได้เปิดบอลโด่งมาจากด้านขวายูฮานี่ โอยาล่ากองหลังที่ทำเสียประตูแรกแอบขึ้นมาอยู่หน้าปากประตูคนเดียวท่ามกลาง แผงหลัง"หงส์แดง" 3-4 คนแต่กลับทำอะไรไม่ได้ปล่อยให้โอยาล่าสะบัดบอลเข้าประตูไปเป็นประตูตีเสมอ 2-2 นาทีที่ 53
เจ้าถิ่นเฮสนั่นขึ้นนำ 3-2
ราอูล มาร์เซโล่ โบบาดิลล่ากองหน้ายัง บอยส์โชว์สเต็ปบังบอลจนเจมี่ คาร์ราเกอร์เข้าไม่ติดก่อนหาจังหวะจ่ายทะลุช่องให้ยูโลจิโอ ซาราเต้คู่ขาที่วิ่งเติมขึ้นมาพอดิบพอดีซิปบอลผ่านแบรด โจนส์บอลค่อยๆย้อยเข้าไปกองในก้นตาข่ายเป็นประตูขึ้นนำนาทีที่ 63
แลกกันมัน!หงส์เอาคืนโคอาเตสโขกตีเสมอ
ฟาบิโอ บอรินี่ ที่เพิ่งลงสนามมาไม่ถึง 10 นาทีมีส่วนทำให้"หงส์แดง"กลับมาสู่เกมได้อีกครั้งหลังจากโฉบไปบังทางลูกโขก ของเซบาสเตียน โคอาเตซในจังหวะเตะมุมบอลกระเด้งเข้าประตูไปในนาทีที่ 67 นับเป็นประตูที่ 2 ของกองหลังอุรุกวัยที่ยิงให้ลิเวอร์พูลได้ด้วย
โล้นซ่าแปเต็มข้อส่งหงส์นำ4-3
ลิเวอร์พูลต่อบอลกันอย่างสวยในจังหวะโต้กลับเมื่อฟาบิโอ บอรินี่ได้กระชากขึ้นมาท้ายฝั่งซ้ายก่อนจ่ายไปให้จอร์แดน เฮนเดอร์สันที่เติมมาตรงกรอบเขตโทษด้านขวากระแทกบอลจังหวะเดียวให้จอนโจ้ เชลวี่ย์ที่ยืนรอกลางประตูแปบอลเน้นๆส่งให้ทีมขึ้นนำอีกครั้ง
ไอ้จ้อนตะบันไกลปิดกล่องหงส์นำ 5-3
ลิเวอร์พูลออกนำห่าง 2 ประตูจนได้เมื่อจอนโจ้ เชลวี่ย์เจ้าเก่าได้บอลจากกลางสนามก่อนลากบอลมาถึงระยะทำการ 30 หลาพร้อมอัดเต็มข้อด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งผ่านมาร์โก โวล์ฟลี่นายด่านเจ้าถิ่นเข้าประตูไปแบบตาข่ายแทบขาดในนาทีที่ 88 และทำให้"หงส์แดง"ชนะไปด้วยสกอร์ 5-3
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
ยัง บอยส์ เบิร์น : มาร์โก โวล์ฟลี่ 5, ยูฮานี่ โอยาล่า 6 
, เอลซาด ซเวโรติช 5, คริสโตฟ สไปเชอร์ 4, ดูซาน เวสโควัค 5 
, สก๊อตต์ ซุตเตอร์ 5, อเล็กซานเดอร์ ฟาร์เนรุด 6, มาริโอ ไรมอนดี้ 5 , ราฟาเอล นุซโซโล่ 6 (คริสเตียน ชนูว์ลี่ย์ 4 น. 69 ), ราอูล มาร์เซโล่ โบบาดิลล่า 7 , ยูโลจิโอ ซาราเต้ 6 (อเล็กซานเดอร์ กอนซาเลซ 4 น.65 )
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : อีวาน เบนิโต้, อเล็กซานเดอร์ กอนซาเลซ, ยาน เล็คแจ็คส์, โมเรโน่ คอสแตนโซ่, มัทเธียส วิตเตียเวซ, มิเชล เฟรเยอร์ เลซิเนน่า
ลิเวอร์พูล : แบรด โจนส์ 4, โฆเซ่ เอ็นริเก้ 3, เซบาสเตียน โคอาเตส 6 , เจมี่ คาร์ราเกอร์ 3, อังเดร วิสดอม 7 , นูริ ซาฮิน 6, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 5, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง 6 (ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 5 น. 77), อุสซามะ อัสไซดี้ 4 (จอนโจ้ เชลวี่ย์ 7 น.67 ) , ดานี่ ปาเชโก้ 4 (ฟาบิโอ บอรินี่ 6 น. 61 ), เฆซุส เฟอร์นานเดซ ซาเอซ "ซูโซ่" 6
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ปีเตอร์ กูลัคซี่, แดนนี่ วิลสัน, แจ็ค โรบินสัน, ซาเหม็ด เยซิล
ที่มา : http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=671958
