d   สมหวังแคมเปญใหญ่''รีเทิร์น ออฟ เดอะ แชมเปี้ยนส์''
แม้ว่าศึกสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 จะยังไม่รูดม่านปิดฉากอย่างเป็นทางการ แต่ในที่สุดเราก็ได้รับทราบทีมแชมป์ไปแล้วนั้นคือ ''กิเลนผยอง'' เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ได้ฉลองชัยอันยิ่งใหญ่ทั้งๆ ที่ฤดูกาลแข่งขันยังไม่ปิดฉาก

    ซีซั่นนี้ต้องยอมรับว่าเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มีความพร้อมและเหมาะสมกับตำแหน่งแชมป์ยากที่ปฏิเสธไม่ได้
   การได้รับการสนับสนุนจาก ''เอสซีจี'' ที่ตัดสินใจร่วมหนุนเป็นสปอนเซอร์หลักด้วยงบประมาณมูลค่ามหาศาลสูงถึงหลัก 600 ล้านบาทด้วยระยะเวลา 5 ปี พร้อมกับเปลี่ยนชื่อทีมมาเป็น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รวมถึงชื่อรังเหย้าอย่าง เอสซีจี สเตเดี้ยม ดูจะช่วยสร้างความฮึกเหิมให้กับเหล่าขุนพลกิเลนผยองได้เป็นอย่างดี


ด้วยงบประมาณมหาศาสส่งให้เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ตัดสินใจทุ่มจ้างดึงกุนซือห้าดาวอย่าง ''ย็อคก้า'' สลาวิซ่า โยคาโนวิช อดีตมิดฟิลด์แห่งทีมเชลซีที่ผันตัวเองมาเป็นโค้ชใหญ่ถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ผุดแคมเปญใหญ่ในซีซั่นนี้ด้วยการตั้งฝันเอาในคอนเซปต์ ''รีเทิร์น ออฟ เดอะ แชมเปี้ยนส์'' 


ซุปตาร์หน้าเก่ายังอยู่กันครบไม่ว่าจะเป็น กวิน ธรรมสัจจานันท์, ภานุพงศ์ วงศ์ษา, ดัสกร ทองเหลา รวมถึง ธีรศิลป์ แดงดา ผนวกกับดาราแข้งหน้าใหม่อย่าง มาริโอ ยูรอฟสกี้, เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์, มงคล นามนวด และ รี ควาง ชอน ซึ่งดูจะผสมกลมกลืนตกผลึกกลายเป็นเพชรที่เจียระไนอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากจะต้องกลับมาผงาดคว้าแชมป์สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 ให้จงได้

ก่อนหน้านี้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เคยคว้าแชมป์ลีกอาชีพสูงสุดได้ถึง 2 สมัยซ้อนมาแล้วในซีซั่น 2009 และซีซั่น 2010 ก่อนที่ปีล่าสุด 2011 จะจบอันดับ 3 ของตาราง

เป้าหมายในการกลับมาครองบัลลังก์ความยิ่งใหญ่บนเวทีสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 ดูจะมีแปลความหมายได้หลายเรื่องราว 

หากคว้าแชมป์ได้ในซีซั่นนี้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะเป็นสโมสรแรกแห่งสาระบบฟุตบอลลีกอาชีพสูงสุดที่คว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 3 เพราะก่อนหน้านี้มีทีมที่ได้แชมป์ 2 สมัยอยู่เพียงแค่ 3 ทีม ประกอบด้วย ทหารอากาศ(1997,1999), บีอีซี เทโรศาสน (2000, 2001) และ ธ.กรุงไทย (2002-03, 2003-04)


อีกทั้งเรื่องของการรักษาสถิติไร้พ่ายนับตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 55 จวบจนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เล่นด้วยฟอร์มที่คงเส้นคงวาส่งให้ยังไม่เคยพลาดท่าปราชัยให้กับคู่ต่อกรเลยสักนัดเดียว เข้าใจง่ายๆ ว่ากิเลนผยองยังไม่แพ้ใคร

จบด้วยการคว้าแชมป์อย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีการสร้างสถิติใหม่ด้วยถึงจะเรียกว่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อย่างเต็มขั้น

แมตช์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ ''กิเลนผยอง'' เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าชัยเหนือ ชัยนาท เอฟซี 1-0 ประตูชัยเกิดจากลูกโขกสุดเฉียบของ ''เทพมุ้ย'' ธีรศิลป์ แดงดา น.40 ส่งให้เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าแชมป์สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 อย่างแน่นอนแล้วทั้งๆ ที่ฤดูกาลแข่งขันยังไม่จบลงเหมือนอย่างที่เกริ่นไว้ในข้างต้น และยังถือเป็นการยิงประตูได้ทุกนัดที่ลงสนามแข่งขันอีกด้วย 

แคมเปญใหญ่อย่าง ''รีเทิร์น ออฟ เดอะ แชมเปี้ยนส์'' ดูจะเป็นผลสำเร็จที่สมหวังทุกฝ่าย 

นอกเหนือจากการคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ซึ่งถือเป็นสโมสรแรกในสาระบบลีกอาชีพที่ประสบความสำเร็จได้ถึง 3 สมัยท่ามกลางความปลื้มปีติยินดีของเหล่าสาวกหลักหมื่นที่แห่กันเข้ามาให้กำลังใจเต็มความจุของสนามเอสซีจี สเตเดี้ยมแล้วนั้น อย่าลืมว่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังคงเดินหน้าสานต่อสถิติไร้พ่ายต่อไป 

31 นัดมี 77 แต้ม ยังเหลืออีก 3 เกมให้ได้ติดตาม และหากว่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าชัยได้ทุกนัดในเกมที่เหลือจะทำให้ซีซั่น 2012 พวกเขาจะมี 86 คะแนน มากกว่าแชมป์ซีซั่นที่แล้วอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มี 85 คะแนน หากเทียบวัดกันในระบบลีก 18 ทีม

สงครามลูกหนังยังไม่จบดีแท้ ดูกันต่อว่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะทุบสถิติดังที่กล่าวไว้ได้หรือไม่ เพราะหากชนะรวดได้อย่างที่หวังชื่อของ ''กิเลนผยอง'' เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะถูกจารึกตราตรึงในหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของวงการลีกอาชีพสูงสุดของเมืองไทยว่าทีมแชมป์ทีมนี้คือทีมแรกที่ไม่แพ้ใครตลอดซีซั่นที่ผ่านมา...อีกไม่นานเดี๋ยวได้รู้แน่ครับท่าน


alt

แฟนบอลลงสนามร่วมฉลองแชมป์กับบรรดานักเตะ


alt

มงคล นามนวด กอดกับ ธีรศิลป์ แดงดาด้วยความดีใจ


alt

ภานุพงศ์ วงศ์ษา (ซ้าย) และ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ปราการด่านสุดท้ายกิเลน ชูกำปั้น
สะใจ


alt

แฟนบอลเข้ายินดีกับ รี ควาง ชอน กองหลังกิเลน


alt

วิลักษณ์ โหลทอง (ขวา) รองประธานสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สวมกอดกับประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บ.ไทยยามาฮ่า มอเตอรจำกัด


alt

ปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ซิเมนต์ 
ร่วมถ่ายภาพกับบรรดาแฟนบอล




''อ๊อฟ...อ๊อฟ''
 
 
Go to top