g  พอผมได้ข่าวหนังไทยเรื่อง “แต่เพียงผู้เดียว P047” หนังที่มีโปรแกรมเข้าฉายแบบเงียบๆ โรงฉายน้อยมาก (ลิโด้ เอสพานาด รัชดา และเมเจอร์เชียงใหม่) จากลักษณะคง ไม่ต้องเดาว่า เป็นหนังอินดี้ ไม่เน้นรายได้ แต่สิ่งที่น่าสนใจตั้งแต่ก่อนได้ชมหนังตัวอย่าง นั่นคือชื่อของผู้กำกับ หนังเรื่องนี้กำกับโดยคุณคงเดช จาตุรันต์รัศมี

 


{youtube width="500" height="390"}1iGpFwGVUdo{/youtube}
  ผลงานของพี่เดช คงเดช จาตุรันต์รัศมี ที่ผ่านมามีความน่าสนใจและมีลักษณะเฉพาะตัว อาทิ สยิว(กำกับร่วม) เฉิ่ม และกอด ส่วนหนังที่กำกับหลังจากนั้นไม่มีโอกาสได้ชมครับ นอกจากนั้นพี่เดช ยังเป็นผู้เขียนบทให้กับหนังไทยอีกหลายเรื่องครับ

g
  จากตัวอย่าง ก็ยิ่งสร้างความอยากดูให้มากขึ้น เพราะ Plot ของเรื่องถือว่าน่าสนใจครับ การที่เราเข้าไปแอบใช้ชีวิตในห้องของคนอื่น ไปรับรู้เรื่องราวต่างๆ และแค่แอบเฉยๆ จะทำได้ตลอดไปหรือ สำหรับนักแสดง ยอมรับว่าผมไม่เคยรู้จักคุณเล็ก อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร นักร้องนำวง Greasy Café จากค่ายเพลง Smallroom มาก่อน แต่นักแสดงอีกท่านนั้นคือ คุณอ็อฟ ปริญญา งามวงศ์วาน ซึ่งเป็นนักแสดงที่ผมชอบในผลงานที่ผ่านมาของเขาเป็นอย่างมาก ทั้งใน Goal Club (เกมส์ล้มโต๊ะ)  อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม และในหลุด 4 หลุด ตอนร้านของขวัญเพื่อคนที่คุณเกลียด เล่นบทเจ้าของร้านขายของได้สุดยอดมากๆ 
v

greasy cafe
  พอได้ชม หนังเรื่องนี้ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบตัดสลับไปมา เดินหน้า ย้อนกลับ จะว่าไปวิธีการตัดต่อก็ดูคล้าย Memento ของคริสโตเฟอร์ โนแลน อยู่พอสมควร จังหวะหนังก็จะดูเนิบๆ ช้าๆ แต่ช่วงแรกก็ดูเหมือนหนังทั่วไปนะครับ ไม่ได้มีสัญลักษณ์อะไรให้ต้องตีความกันมากมาย หนังเล่าผ่านตัวละครชื่อ “เล็ก” ที่แสดงโดยคุณเล็ก และ “ก้อง” ที่แสดงโดยคุณอ็อฟ เล็กเป็นช่างกุญแจ ที่มั่นใจว่า ประตูบานไหนก็เปิดได้ ส่วนก้อง ก็เป็นคนเฝ้าร้านหนังสือ แต่มีอาชีพเดิมที่น่าสนใจ คือทำงานในกองถ่ายภาพยนตร์ ในตำแหน่งที่เรียกกันว่า Continue ซึ่งก็คือ ตำแหน่งที่ต้องคอยจดจำบันทึกข้อมูลของการถ่ายหนังในแต่ละฉากให้มีความต่อเนื่องกัน เพราะโดยปกติการถ่ายหนัง จะถ่ายสลับไปมา ไม่ได้เรียงลำดับตามเนื้อเรื่องอยู่แล้ว ฉากไหนสะดวกและเหมาะตอนไหน ก็ถ่ายทำก่อน จึงต้องมี Continue ไว้กำกับให้เสื้อผ้าหน้าผมและอื่นๆต่อเนื่องกันตลอด โดยไม่มีการโดดของภาพ ซึ่งตำแหน่งนี้แน่นอนว่ามีความชำนาญในการเก็บข้อมูลและจดจำว่าหากมีอะไรผิดไปจากเดิมตอนเริ่มต้น ก็จะปรับให้กลับเข้าที่ได้
v
การที่พี่เดชจงใจให้ก้องมีอดีตเคยทำอาชีพนี้ ถือว่าเจ๋งครับ เพราะความสงสัยว่า การแอบเข้าไปใช้ห้องของคนอื่น กิน ดื่ม ฟังเพลง อาบน้ำ สารพัดที่ทำ แล้วจะทำให้ทุกอย่างมันกลับเข้าที่ได้เหมือนเดิมอย่างไม่ผิดเพี้ยนได้อย่างไร ได้หมดไปหลังจากทราบอาชีพเดิมของก้อง พอมั่นใจก็สนุกกับหนังล่ะครับ การเข้าไปในห้องแต่ละห้องก็เหมือนการได้รับรู้ความลับ เข้าใจความคิดของคนคนนั้น
v

 

  จากนั้นหนังก็เดินเรื่องไปเรื่อยๆ และมีเรื่องราวที่เดินเสริมเพิ่มไปด้วยอีกหลายอย่างครับ ทั้งความใฝ่ฝันของก้อง ที่อยากเขียนนวนิยายสืบสวน แนว Bourne (เจสัน บอร์น) การที่เล็กไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคุยกับผู้หญิง ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เรื่องราวของแฟนเก่าของก้อง เอาเป็นว่าถึงตรงนี้ก็ดูเพลินมาได้เรื่อยๆ สมองของผมยังทำงานได้ปกติจนกระทั่งถึงจุดหักมุมจุดหนึ่ง พอหลังจากฉากนั้น ก็เอาแล้วไง พี่เดชเริ่มเพิ่มความสับสนเข้ามาใส่ผู้ชม ทุกคนคงมีคำถามว่า เกิดอะไรขึ้น แล้วก้องล่ะเป็นไง แล้วที่นั่นคืออะไร ไปที่โน่นทำไม ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แล้วเรื่องที่เล่าเกี่ยวอะไร เอาเป็นว่า สมองปั่นป่วนเลยครับ และหนังก็ยังคงตัดสลับกลับไปกลับมา แต่ก็ไม่ได้เฉลยอะไรมากมาย ครึ่งหลังนี่เล่นเอาผมมีเครื่องหมายคำถามเต็มหัวเลยล่ะครับ จนถึงตอนท้ายๆตอนจบ เหมือนจะช่วยคลี่คลายอะไรบ้าง แต่ก็ดูแล้ว ช่วยอีกนิดเดียว หนังจบอารมณ์ไม่จบครับ คำถามเต็มหัว
v
  ขอบอกก่อนนะครับว่าหนังไม่ได้ดูยาก แต่หนังจงใจเล่าเรื่องไม่ครบ ผมว่าเล่าประมาณ 70 % แล้วปล่อยอีก 30% ที่เหลือให้คนดูคิดเอง ที่สำคัญคือ 30% เหมือนไม่มีถูกและผิด จะคิดแบบไหนก็แล้วแต่เรา หนังเรื่องนี้เหมือนจะพูดในประเด็นของการที่ตัวเราไปลองเป็นคนอื่น พอลองเป็นมากๆ ก็จะแยกแยะไม่ได้ว่า แล้วตัวจริงของเราล่ะ คืออะไร แต่ด้วยการปล่อยช่องว่างให้ผู้ชมจินตนาการส่วนที่เหลือเอง รวมทั้งปริศนาหลายอย่างที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ เปรียบเทียบ ไม่ได้เฉลย ก็ทำให้ หนังเรื่องนี้ มันติดคาหัวผมมาจนถึงตอนนี้ พอหวนไปคิดถึง ก็ยังมีสิ่งที่ไม่เข้าใจ และอยากจะเข้าใจอยู่ดี เรียกว่า ดูหนังแล้วไม่จบ และเหมือนจะไม่มีวันจบด้วย
v
  ในด้านการแสดง คุณเล็ก สอบผ่านได้สบายครับ การถ่ายทอดอารมณ์ทำได้ดี ส่วนคุณอ๊อฟ ไม่ต้องพูดถึงครับ ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม นักแสดงท่านอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ได้ดีครับ ไม่มีติดขัด และนักแสดงรับเชิญตอนท้าย ที่ผมขอไม่บอกว่าเป็นใคร มาแสดงนิดเดียว แต่การแสดงสีหน้าอารมณ์นั้นเยี่ยมจริงๆ
  หนังเรื่องนี้ ถือเป็นความแปลกใหม่ที่ผมว่าหาไม่ได้ในหนังไทยยุคก่อนๆ หนังไม่ได้ดูยาก หรือมีสัญลักษณ์มากมาย แต่หนังค่อนข้างเปิดให้คุณเสริมเรื่องราวที่คุณคิดและจินตนาการลงไปได้เองในแบบที่ไม่มีถูกผิด ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่พิเศษของผมเลยทีเดียว ขอบคุณพี่เดชที่กล้าทำหนังไทยแนวนี้ครับ และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังเรื่องนี้จะมีออกมาในรูปแบบ DVD เพื่อให้หลายๆท่านที่ต้องการหนังไทยแนวที่แตกต่างจากหนังไทยเรื่องอื่นๆ ได้มีโอกาสดูครับ
v
   สุดท้ายผมเริ่มเข้าใจแล้วว่า จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของหนังเรื่องนี้ที่จะบอกกับทุกๆคนที่ได้ดูก็คือ จะมีเนื้อเรื่องที่ครบสมบูรณ์ในความคิดของคนแต่ละคนที่ได้ชม “แต่เพียงผู้เดียว” เท่านั้นไม่มีเหมือนกันหรือซ้ำกันเลยแน่นอนครับ 


{youtube width="500" height="390"}-pfLdsV9A2o{/youtube}
เกรดหนัง – น่าดูมาก

 

คอลัมน์: จิบกาแฟแลหนังไทย

นิตยสาร: VOTE ปีที่ 8 ฉบับที่ 165 ปักษ์หลัง ,กันยายน 2555 หน้า 56

แต่เพียงผู้เดียว P047 – แล้วคุณจะเข้าใจแต่เพียงผู้เดียว

ที่มา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mrcoffee&month=17-10-2012&group=12&gblog=12

 

 

 

Go to top