เดี๋ยวนี้ร้านอาหารในเมืองเลยเปิดขึ้นมากันเยอะแยะเลยครับ อย่างร้านชาบูที่วันก่อนแอดมินแวะไปกินมา ก็มีเนื้อโคขุน ให้ลองรับประทานกัน บางร้านมีเนื้อแบบแปลกๆให้กินกัน ... วันนี้เจอบทความอันนึงเห็นแล้วเลยอยากกินขึ้นมาอีกแล้ว ขอบคุณบทความจาก manager.co.th
สำหรับนักชิมผู้หลงใหลในรสชาติและความนุ่มของเนื้อวัวคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าการได้ลิ้มลองเนื้อวัวระดับพรีเมี่ยมนั้นถือเป็นสวรรค์ของคนรักเนื้ออย่างแท้จริงโดยเฉพาะราชาแห่งเนื้ออย่าง "วากิว" ที่มีจุดเด่นพิเศษตรงที่มีไขมันแทรกอยู่ในเนื้อคล้ายกับลายหินอ่อน ยิ่งถ้ามีลวดลายมากเพียงใด รสชาติที่หวานนุ่มละมุนลิ้นที่แทบจะละลายในปากก็จะดีเยี่ยมขึ้นเท่านั้น ทำให้วากิวกลายเป็นเนื้อชั้นดีที่สุดในเหล่าบรรดาเนื้อทั้งหลายในโลกไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อจัดอยู่ในประเภท คอเลสเตอรอลต่ำและให้ประโยชน์ต่อร่างกาย
วากิว เป็นคำภาษาญี่ปุ่นมาจากการนำเอา 2 คำมารวมกันคือ วะ (和) ที่แปลว่าประเทศญี่ปุ่น และ กิว (牛) ซึ่งแปลว่าเนื้อวัว ดังนั้นหากจะให้แปลตรงตัวแล้ว วากิว ก็คือเนื้อวัวที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง เนื้อวากิวในปัจจุบันมีด้วยกัน 5 สายพันธุ์หลัก ได้แก่
1. Japanese Black
2. Japanese Brown
3. Japanese Polled
4. Japanese Shorthorn และ Kumamoto Reds
ซึ่งช่วงเวลานี้โคสายเลือดทาจิมะ (tajima) กำลังมาแรงแซงทุกทางโค้งของตลาดขายเนื้อ หากยังมองภาพไม่ออก ให้นึกถึงเนื้อมัตซึสะกะ ซึ่งได้นับการยกย่องให้เป็นราชาของบรรดาเนื้อ และเนื้อโกเบที่ได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีแห่งเนื้อตลอดกาล โดยเนื้อทั้งสองชนิดนี้ได้สืบทอดเชื้อสายมาจากโคสายพันธุ์ทาจิมะเดียวกัน แตกต่างกันตรงที่นำลูกวัวไปเลี้ยงคนละเมือง
เนื้อโกเบก็คือเนื้อโคทาจิมะที่เลี้ยง ณ เมืองโกเบ บนเกาะฮอนชู เขตคันไซ ใกล้โอซากา หากถัดไปทางตะวันออกของเมืองโกเบ ก็จะพบราชาแห่งเนื้อซึ่งเลี้ยงอยู่ที่จังหวัดมิเอะ เมืองมัตซึสะกะ ความจริงแล้วโคทาจิมะ เป็นโคสายพันธุ์หนึ่งของโคพันธุ์วากิว (wagyu ,wa แปลว่าประเทศญี่ปุ่น , gyu แปลว่าวัว) ซึ่งปัจจุบันมีด้วยกัน 4 สายพันธุ์หลัก คือ
1. Japanese black
2. Japanese brown
3. Japanese polled
4. Japanese shorthorn
ซึ่งเนื้อโกเบและมัตซึสะกะจัดเป็นโคสายพันธุ์วากิวแบบ japanese black สืบสายเลือดทาจิมะ
ส่วนสาเหตุที่เรียกว่าทาจิมะ ก็เพราะบรรพบุรุษโคต้นกำเนิดเชื้อสายนี้มีชื่อว่าทาจิริ หรือ ทาจิมะ จึงนำมาตั้งเป็นชื่อสายพันธุ์อันสุดยอดนี้ ฟังดูอาจจะสับสน แต่ความงงก็จะหายไปทันทีที่คีบเนื้อเข้าปาก และสัมผัสถึงความนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ และไขมันที่แทรกในกล้ามเนื้อนี้เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว เวลากินจึงไม่ค่อยรู้สึกเลี่ยนเท่าไหร่ เพราะมีไขมันติดลิ้นน้อย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโอเมกา-3 และโอเมกา-6
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมกินเนื้อที่มีมันแทรกแล้วจึงสามารถช่วยลดคอเรสตอรอล ได้ สาเหตุก็เพราะไขมันลายหินอ่อนในเนื้อ ต่างจากไขมันที่หุ้มซาก ไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังสัตว์ และไขมันในช่องท้อง ซึ่งเมื่อเรากินเข้าไป ก็พร้อมจะจับตัวเป็นก้อนแข็ง ๆ อุดตันในเส้นเลือด แต่มันแทรกสีขาวในเนื้อวากิวเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวอย่างโอเมกา จะช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตัน และโรคหัวใจ เวลาบริโภคจึงได้รับประโยชน์ควบคู่กับความอร่อย
ความจริงแล้วในบรรดาวากิว 4 สายพันธุ์หลักชาวญี่ปุ่นยกย่องให้ japanese black เป็นสุดยอดแห่งสายพันธุ์อันดับหนึ่ง โดยลักษณะรูปร่างของโคสายพันธุ์นี้มีขนาดเล็ก เส้นขนดำหยักเป็นลอน ส่วนกลางลำตัวกางออก ซี่โครงแข็งแรง ส่วนขาหลังและลำคอบาง โคสายพันธุ์นี้เลี้ยงกันมากกว่า 90% ของประชากรวัวทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่น และเฉพาะสายพันธุ์ japanese black นี้เท่านั้นที่จะให้เนื้อซึ่งมีไขมันแทรกในปริมาณสูงสุด