ได้มีการเปิดเผยร่าง พ.ร.บ. จราจรทางบก ฉบับใหม่ ฉบับบที่ 23 ซึ่งได้มีการเพิ่มโทษปรับความผิดลหุโทษตามประมวลกฎหมายอาญาฯ
กฏหมายจราจร ล่าสุด
พรบ.จราจร 2560
แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2558 จากเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท เป็นปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งความผิดตาม พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ. 2522 นั้นส่วนใหญ่มีอัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ / พนักงานจราจร / พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบ ซึ่งมีรายงานว่าได้รับความเห็นชอบจาก คณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย โดยมีรายละเอียดดังนี้
ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก
ความเดิม :
– พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522
– คณะรัฐมนตรีมีมติ 1 มีนาคม 2559 เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก (เพิ่มช่องทางชำระค่าปรับ) ได้มีการเพิ่มโทษปรับความผิดลหุโทษตามประมวลกฎหมายอาญาฯ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2558 จากเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท เป็นปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งความผิดตาม พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ. 2522 นั้นส่วนใหญ่มีอัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ / พนักงานจราจร / พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบ
– ที่ผ่านมามีผู้กระทำความผิดแล้วได้รับใบสั่งให้ชำระค่าปรับแต่มิได้ชำระ ซึ่งพบว่ามาตรการที่ใช้บังคับยังไม่เพียงพอที่จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายได้ผลเท่าที่ควร
– นอกจากนี้ยังพบว่ามีการรวมกลุ่ม การมั่วสุม หรือพฤติการณ์ต่างๆ ที่น่าจะนำไปสู่การแข่งรถที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญและขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งควรมีการกำหนดความผิดและโทษสำหรับการกระทำดังกล่าวด้วย
– คำสั่ง คสช.ที่ 46/2558 (เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะ)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก
สาระสำคัญของ พ.ร.บ.
1) ปรับปรุงอัตราโทษปรับสำหรับความผิดลหุโทษที่พนักงานเจ้าหน้าที่ / พนักงานจราจร / พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบ ให้เหมาะกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน และสอดคล้องกับประมวลกฎหมายอาญาที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมไปแล้วในมาตราต่างๆ เช่น มาตรการบังคับผู้ขับขี่ที่ได้รับใบสั่งแล้วไม่ไปชำระค่าปรับ / มาตรการนำรถที่ใช้ในการกระทำความผิดมาเก็บรักษาและกำหนดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา / การป้องปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522…เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเกรงกลัวต่อการกระทำความผิด ส่งผลให้มาตรการป้องกันอุบัติภัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2) แก้ไขเพิ่มเติมน้ำหนักของรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจากเดิม 1,600 กก. เป็น 2,200 กก. ที่ไม่ต้องขับในช่องเดินรถด้านซ้ายสุดหรือช่องที่ใกล้เคียงกับช่องเดินรถประจำทาง
3) ผู้ขับขี่ต้องจัดให้คนโดยสารในรถทุกคนทุกที่นั่งรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์ (เดิมระบุเฉพาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า)
4) เพิ่มมาตรการบังคับผู้ขับขี่ที่ไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่ง โดยกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ออกหนังสือแจงเตือนผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถให้มาชำระค่าปรับภายใน 15 วัน หากยังไม่ปฏิบัติให้ชะลอการรับชำระภาษีประจำปีไว้ก่อน และให้นายทะเบียนมีอำนาจยึดหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของบุคคลนั้น
5) กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ / พนักงานจราจร / พนักงานสอบสวน มีอำนาจสั่งให้มีการทดสอบลมหายใจ ปัสสาวะ เลือดหรือวิธีการอื่นอย่างชัดแจ้งว่าผู้ขับขี่สุราหรือของเมาอย่าอื่นหรือไม่ ซึ่งตองกระทำเท่าที่จำเป็นและสมควรโดยให้เกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่จะกระทำได้และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและอนามัยของผู้ขับขี่ (ปัจจุบันไม่ได้ระบุว่าการทดสอบให้ใช้วิธีการใดบ้าง)
6) มาตรการยึดและเก็บรักษารถที่ใช้ในขณะกระทำความผิดบางฐาน (ชั้นตำรวจ) ได้แก่ ฐานขับรถขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น / ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น / แข่งรถในทางโดยมิได้รับอนุญาต ….. กำหนดให้เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่ต้องชำระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษารถดังกล่าว (คำสั่ง คสช. 46/2558 มากำหนดไว้ในกฎหมายนี้)
7) เพิ่มอัตราโทษในความผิดฐานแข่งรถในทางโดยมิได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 6,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ (เดิมจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท)
8)กำหนดความผิดและโทษของการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมหรือพฤติการณ์ที่จะรวมกลุ่มเพื่อมั่วสุมที่นำไปสู่ความผิดตามข้อที่ 7) จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 3,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
9) แก้ไขเพิ่มเติมอัตราโทษในความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอื่นๆ เป็นจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 10,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่มีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาต และเพิ่มมาตรการยึดรถในชั้นศาล (ไม่เกิน 7 วัน) ด้วย (เดิมจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 – 20,000 บาท)
9.1) หากกระทำความผิดตาม 9) เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ จำคุก 1 – 5 ปี ปรับ 20,000 – 100,000 บาท พักใช้ใบอนุญาตฯ ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตฯ
9.2) หากกระทำความผิดตาม 9) เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส จำคุก 2 – 6 ปี ปรับ 40,000 – 120,000 บาท พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาต
9.3) หากกระทำความผิดตาม 9) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 3 – 10 ปี ปรับ 60,000 – 200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
10) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีอำนาจกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ
11) กำหนดให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมีอำนาจสั่งยึดใบอนุญาตขับขี่ได้ด้วย
12) ผู้สั่งยึดใบขับขี่อาจบันทึกการยึดและคะแนน และดำเนินการอบรมทดสอบผู้ขับขี่ที่กระทำผิดซ้ำตั้งแต่ 2 ครั้งใน 1 ปี รวมทั้งสั่งพักการใช้ใบอนุญาตขับขี่ที่เสียคะแนนมากของผู้ขับขี่นั้นโดยมีกำหนดครั้งละไม่เกิน 90 วัน
13) ผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดซ้ำภายใน 1 ปี ให้เพิ่มจำนวนค่าปรับขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 2 เท่าของจำนวนค่าปรับที่ได้ชำระในความผิดครั้งก่อน
14) ผู้ประกอบการรับจ้างบรรทุกคนโดยสารโดยรถแท็กซี่ที่ไม่จอดรถ ณ สถานที่ที่กำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท (เดิม 1,000 บาท)
ขอขอบคุณบทความจาก : http://www.siamvariety.com/view-14074.html