300   การพัฒนาเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ที่รุดหน้ารวดเร็ว ส่งผ่านถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจซ่อนอยู่ภายในโครงสร้างสังคมอนุรักษ์ รวมทั้งการผุดของบาร์โฮสต์ สถานที่ผ่อนคลายของสตรีกระเป๋าหนัก พร้อมจ่ายไม่อั้นเพื่อซื้อเวลาจากหนุ่มหุ่นดีหน้าใสมีสไตล์ ที่อาจเปรียบได้กับเกอิชาแห่งญี่ปุ่น และกีเซ็งของเกาหลี ความแตกต่างที่สำคัญมีเพียงเรื่องเดียวคือ ลูกค้าทั้งหมดเป็นผู้หญิง

  บาร์ 123 ในย่านกัมนัม อันหรูหราของกรุงโซล เป็น ตัวอย่างหนึ่งของธุรกิจบาร์โฮสต์ที่กำลังโตวันโตคืน มีห้องจัดไว้สำหรับให้คุณสุภาพสตรีนั่งดื่มนั่งคุยกับหนุ่มที่เธอเลือกเอง ได้ตลอดคืน

 

k

 

มินคยอง สตรีที่รูปร่างหน้าที่ดีแต่งกายเนี้ยบ ระดับผู้จัดการของโรงแรมระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง ที่ดูจากภายนอกแล้ว ไม่น่าที่จะต้องจ่ายเพื่อการมีเพื่อนชายสักคนเลย แต่เธอผู้นี้ไปเที่ยวบาร์โฮสต์เดือนละ 1-2 ครั้ง ย่อมแสดงว่าบาร์โฮสต์จะต้องมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง ซึ่งมินคยองก็อธิบายว่า เวลามาที่นี่ เธอได้รับความสนใจจากหนุ่มๆ เหล่านั้น เธอมีตัวเลือกมากกว่า และที่สำคัญ เธอเป็นผู้กำหนด

"หากเป็นบาร์ทั่วไป ผู้ชายที่มานั่งดื่มกับเธอหวังแค่สัมพันธ์คืนเดียว แต่ฉันไม่ต้องการแบบนั้น จึงเป็นเหตุผลที่เลือกมาที่นี่ ฉันแค่อยากสนุก" มินคยอง กล่าว

หน้าที่ของหนุ่มๆ ที่ทำงานในบาร์คือ เป็นเพื่อนคุย บริการเทเหล้าให้ลูกค้า เต้นรำและร้องคาราโอเกะ ส่วนใหญ่ไม่มีบริการทางเพศเสนอ เพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ผู้ชายที่ทำงานนี้ประเมินว่า ลูกค้าครึ่งหนึ่งพร้อมจะจ่ายเพื่อซื้อบริการอย่างว่า ทั้งในหรือนอกสถานที่

เจมส์ โฮสต์ที่ทำงานในบาร์ 123 มาได้สองปี กล่าวว่า ความภูมิใจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับวัฒนธรรมเกาหลี การจะพูดเจรจาซื้อขายบริการทางเพศอย่างเปิดเผย เป็นเรื่องยาก จึงตกเป็นงานของโฮสต์เองที่จะประเมินเอง โดยหลังจากคุยกับลูกค้าสักชั่วโมง ก็พอจะรู้แล้วว่า ลูกค้าทำอะไร มีรายได้ประมาณเท่าไหร่ เราวิเคราะห์จากบุคลิกภาพ และรู้ว่าเธอพร้อมจะให้ได้แค่ไหน "ผู้ชายที่นี่ เป็นมืออาชีพ เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร"

ko

 ลูกค้าของเจมส์และของเพื่อนร่วมบาร์ 123 บางคนเป็นระดับอภิสิทธิชน ชนิดที่ว่าเงินกับผลประโยชน์ต่างๆ ที่เธอยื่นเสนอมา ไม่น่าเชื่อ

เจมส์เคยพบลูกค้าคนหนึ่งในสัปดาห์แรกที่เข้าทำงาน เธอขอให้เซ็นสัญญาขอตัวนานสองปี เธอมีกระดาษมาหนึ่งใบ และให้กรอกตัวเลขห้าหลักลงไปเท่าไหร่ก็ได้ ถือเป็นอันตกลง ซึ่งเจมส์คิดว่าเธอล้อเล่น ก่อนมารู้ในภายหลังว่า สตรีคนเดียวกันได้จ่ายให้โฮสต์อีกคน 97,000 ดอลลาร์

ที่น่าสนใจคือ ลูกค้ากลุ่มใหญ่ของบาร์ผู้ชาย ซึ่งอันที่จริงก็แตกหน่อมาจากสถานผ่อนคลายสำหรับผู้ชายที่เรียกว่า รูม ซาลอน ก็คือสาวสวยที่ทำงานในสถานที่เหล่านั้น

k

 คิม ดอง ฮี  โฮสต์รุ่นเก๋า กล่าวว่า ความต้องการของสาวๆ ที่ต้องการปลดปล่อยหลังการทำงานนี่เอง เป็นจุดกำเนิดบาร์ผู้ชายในตอนแรก

สิ่งที่พวกเธอต้องการจากเราคือ ทำในสิ่งเดียวกับที่พวกเธอต้องฝืนใจทำในที่ทำงานแม้ไม่อยากทำ เพื่อเงิน

ในสายตาของนักวิชาการ แจสเปอร์ คิม ประธานกลุ่มวิจัยโลกฝ่ายเอเชียแปซิฟิก ในกรุงโซล มองว่า บางอย่างที่สำคัญ สูญหายไประหว่างทางที่เกาหลีใต้พัฒนาจากประเทศที่บอบช้ำจากสงคราม เป็นประเทศอุตสาหกรรมใน 50 ปี โตเร็วมากก็เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ชาวเกาหลีใต้ตั้งรับไม่ทัน ลัทธิทุนนิยมอยู่เหนือค่านิยมสังคมพื้นฐานดังที่เคยเห็นเมื่อยี่สิบปีก่อน

ผู้หญิงเกาหลีจำนวน มากถูกปล่อยให้ว้าเหว่เพราะผู้ชายต้องทำงานหนักและหลายชั่วโมงต่อวัน ความก้าวหน้าเชิงเทคนิคของประเทศ ทำให้คนบางกลุ่มถูกกันออกไป และทุกวันนี้ ประชาชนมุ่งเทคโนโลยี งาน ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์มาทีหลัง

f

 ในมุมนี้ คิม ดอง ฮี ผู้คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจบาร์โฮสต์ เห็นด้วยว่า ผู้หญิงจำนวนมากที่ไปเที่ยวบาร์ ไม่ ได้เพื่อจ่ายเงินซื้อสัมพันธ์ทางเพศ แต่ต้องการเพื่อน อยากคุยและฟัง ต่างจากผู้ชายที่ต้องการความสุขใจทางสายตา รู้สึกได้ สัมผัสได้ ตนจึงคิดเปิดบาร์ในลักษณะเป็นแหล่งพูดคุยในชื่อ "เรด โมเดล บาร์"

ความต่างจากบาร์โฮสต์ดั้งเดิมคือ กฎห้ามสัมผัส โฮสต์กับลูกค้าจะนั่งอยู่คนละฝั่งของโต๊ะ ไม่อนุญาตให้แตะต้องเนื้อตัว และแน่นอน ไม่มีเพศสัมพันธ์

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าคนทำงานหรือลูกค้าที่ไปดื่มที่นั่น ไม่จำเป็นต้องลับๆ ล่อๆ มากนัก การตกแต่งส่วนใหญ่ใช้สีแดงเข้ม และดูเหมือนจะไปได้สวย เพราะกำลังจะเปิดใหม่อีกสามสาขาในปีนี้

gg

 ลูกค้าสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ กล่าวว่า เธอไปที่นั่นบ่อย เพื่อพบกับโฮสต์คนโปรดและระบายเรื่องที่ประสบในที่ทำงาน โดยยอมจ่ายเป็นค่าของการได้รับความสนใจอย่างจริงจังจากหนุ่มโฮสต์ วันละ 487-650 ดอลลาร์ (ประมาณ 15,000-20,150 บาท)

"แน่ละว่าการพูดคุยกับเพื่อน ถูกกว่ามาก แต่พวกเขาไม่ได้อยากฟังเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ยุ่ง และแย่งพูดเรื่องของตัวเอง ไม่เหมือนที่นี่ มีคนรับฟัง และสนใจ เธอจ่ายเงินมากก็จริง แต่ก็คุ้มค่าสำหรับสิ่งที่ได้รับทางใจ เหมือนกับคนที่ไปหาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยานั่นแหละ"

 

 

ข้อมูลจาก : http://www.komchadluek.net

 

Go to top