m 

 

  นัก วิจัยของคณะเภสัชศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ได้วิจัยเรื่องสรรพคุณ วิเศษของมะเขือพวง  ผักพื้นบ้านของไทย  และพบว่า  เป็นพืชที่มีประโยชน์อย่างมาก  เนื่องจาก  มีฤทธิ์ช่วยลดอนุมูลอิสระ  ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ของผู้ป่วยเบาหวาน   มีเส้นใยที่ช่วยดูดซับไขมันส่วนเกินได้ดีเยี่ยม  เรียกว่า เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักวิจัยและคนไทยทั่วไป

 

  เนื่องจาก มะเขือพวง  เป็นพืชคู่ครัวคนไทยมาช้านาน ไม่ว่าเราจะกินแกงเขียวหวาน  แกงเนื้อ  แกงป่า  น้ำพริกากะปิ  หรือผัดเผ็ดบางชนิด  สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ "มะเขือพวง"  แสดงให้เห็นว่า  ตำหรับอาหารที่สืบทอดมาแต่โบราณ  บรรพบุรุษของเรา  มิได้คำนึงถึงรสชาติเพียงอย่างเดียว แต่ยังมองไปถึงสรรพคุณของพืชผัก แต่ละชนิดเป็นส่วนสำคัญอีกด้วย

d

    มะเขือพวง(Devil’s Fig) มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Solanum Torvum Sw. อยู่ในวงศ์ Solanaceaซึ่งเป็นวงศ์ของพืชพวกพริกและมะเขือต่าง ๆ นั่นเอง มะเขือพวงมีลักษณะพิเศษบางประการต่างจากมะเขือชนิดอื่น ๆ คือเป็นไม้พุ่มยืนต้นข้ามปี ไม่ใช่พืชล้มลุกเหมือนมะเขือชนิดอื่น ๆ นอกจากนั้นยังมีขนาดใหญ่โตกว่ามะเขือชนิดอื่น ๆ ด้วย เพราะมีทรงพุ่มสูงถึงกว่า 1 เมตร ขึ้นไปถึง 2 เมตรทีเดียว ตรงข้ามกับขนาดใหญ่โตของลำต้น มะเขือพวงกลับมีผลขนาดเล็กที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับมะเขือชนิดอื่น ๆ และมีผลออกรวมกันเป็นกลุ่มหลาย ๆ ผล อยู่บนช่อเดียวกันจึงได้ชื่อว่า มะเขือพวง เพราะมีผลรวมอยู่เป็นพวงนั่นเอง ผลอ่อนใช้เป็นผักสด หรือแกงอ่อม ภาคกลางใช้เป็นส่วนประกอบของ แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน ใส่น้ำพริกฯลฯ
สรรพคุณทางยาสมุนไพร ผลดิบของมะเขือพวงใช้เป็นยาแก้ไอ ขับปัสสาวะ และช่วยย่อยอาหารการกินผลมะเขือพวงดิบเป็นอาหาร (เช่น ในเครื่องจิ้มชนิดต่าง ๆ) ก็คงมีสรรพคุณทางยาด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนรากของมะเขือพวงใช้รักษาโรคฝ่าเท้าแตก หรือโรคตาปลา

d

  "มะเขือ พวง"  มีสรรพคุณตามตำราแพทย์แผนโบราณหลายประการ  เช่น  ช่วยเจริญอาหาร  ช่วยระบบขับถ่าย  บำรุงธาตุ  ขับเสมหะ แก้ไอ  ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนได้ดี  แก้ปวด  ฟกซ้ำ  ปวดกระเพาะ  แก้อาการฝีบวมหนอง  อาการบวม  อักเสบ  ขับปัสสาวะ  ทั้งนี้  จากการศึกษาวิจัย  ทำให้พบว่า

1.  มะเขือพวงมีสารจำพวก  "ไฟโตนิวเทียนท์"  ที่จะช่วยร่างกาย ในสภาวะขาดสารอาหาร  ให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติ

2.  มีกลุ่มสาร "ทอร์โวไซด์"  ซึ่งช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ และกระตุ้นให้ตับนำโคเลสเตอรอลในเลือดไปใช้ได้มากขึ้น  รวมทั้งยับยั้งการดูดซึมกลับของโคเลสเตอรอลในลำไส้ด้วย  จึงอาจช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อีกทางหนึ่ง

3.  ในมะเขือพวงมีสาร  "ซาโปนิน"  ทำให้มะเขือพวงมีฤทธิ์ขับเสมหะ

d

4.  มะเขือพวงเป็นพืชที่มีเส้นใยมากที่สุด  เมื่อเทียบกับผักพื้นบ้านของไทยทั้งหมด  จนได้รับสมญานามเป็น "ราชาแห่งผักพื้นบ้าน  ในเรื่องของสารเส้นใย"  โดยมีเส้นใยมากกว่ามะเขือยาว 3  เท่า  และมากกว่ามะเขือเปราะถึง  65  เท่า  เส้นใยในมะเขือพวง  มีชื่อเรียกว่า  "เพกติน"  ซึ่งเป็นสารที่ละลายน้ำได้

สารนี้ จะสามารถเปลี่ยนเป็นวุ้นไปเคลือบที่ผิวของลำไส้  ทำให้ลำไส้ดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง  จึงเป็นการช่วยไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็วเกินไป  ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้

"สารเพกตินในมะเขือพวง  ช่วยในการดูดซับไขมันส่วนเกินออกจากอาหารได้  ซึ่งนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่บรรพบุรุษของไทย  มักจะทำแกงกะทิใส่มะเขือพวง  ซึ่งน่าจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง  และโรคหลอดเลือดหัวใจได้"

อย่างไรก็ตาม  แม้ มะเขือพวงจะเป็นพืชผักที่มีประโยชน์มาก  แต่คณะผู้วิจัยก็ยังบอกว่า  ไม่ควรกินมากเกินไป  เพราะมีสาร  "อัลคาลอยด์"  ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท   และมีผลต่ออวัยวะอื่น ๆ (เข้าทำนองว่า  อะไร ๆ  ที่เกินประมาณ  ก็เกิดอันตรายได้ทั้งนั้น)

 

ที่มา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=africa&month=20-08-2012&group=9&gblog=237

 

Go to top