kapook สมรภูมิเว็บท่าระอุ "กระปุกฯ" ผงาดขึ้นเบอร์หนึ่งเบียด "สนุกฯ" ไปอยู่อันดับ 2 ของทรูฮิตส์ "ปรเมศวร์ มินศิริ" ได้ใจเร่งลงทุนขยายฐานธุรกิจ เล็งซื้อเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซต่อยอด ชี้ 3G แจ้งเกิดสร้างจุดเปลี่ยนธุรกิจเว็บไซต์รอบใหม่ ดันโฆษณาออนไลน์โต ฟาก "สนุกฯ" ยันยังครองแชมป์จากข้อมูลสถิติของ "คอมสกอร์" ที่มีการใช้งานกว่า 5.4 ล้านคนต่อวัน มั่นใจลูกค้าโฆษณาเชื่อมั่น

 ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานว่า จากข้อมูลจากเว็บไซต์ทรูฮิตส์ (truehits.net) พบว่าในแง่ของการจัดอันดับเว็บไซต์โดยพิจารณาจากจำนวนผู้เข้าใช้งานต่อวัน (Unique IP : UIP) มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ โดยพบว่าเว็บไซต์กระปุกดอตคอม (kapook.com) ซึ่งอยู่ในอันดับ 2 ของตารางมานาน ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ได้ขยับขึ้นอันดับหนึ่งของตารางแล้ว แม้ว่าในบางวันสนุกดอตคอม (sanook.com) แชมป์เก่าจะพลิกกลับขึ้นมาบ้างก็ตาม โดย ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2555 พบว่ากระปุกฯมี UIPอยู่ที่ 921,919 ราย ส่วนสนุกฯ อยู่ที่ 897,314 ราย

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของจำนวนหน้าที่เข้าดู (page view) อันดับหนึ่งยังคงเป็น "สนุกฯ" โดยมีการคลิกเข้าไปดูเนื้อหากว่า 13 ล้านครั้ง ส่วนอันดับสองเป็น "เอ็มไทย" ประมาณ 7 ล้านครั้ง และอันดับสามคือ "กระปุกฯ" ประมาณ 5 ล้านครั้ง

alt

นายปรเมศวร์ มินศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัณฑิต เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์กระปุกดอตคอม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากที่เว็บไซต์กระปุกฯขึ้นอันดับหนึ่งของทรูฮิตส์ในแง่ UIP ถ้าแนวโน้มยังเป็นแบบนี้มีโอกาสที่กระปุกฯจะมี UIP เป็นอันดับหนึ่งจนจบปีค่อนข้างเป็นไปได้สูง เหตุผลสำคัญน่าจะมาจากคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์คนไทย และมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์จนทำให้มีการกระจายเนื้อหาต่อในโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ทำให้มีคนเข้ามาดูคอนเทนต์เพิ่มขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้การเพิ่ม IP ใหม่ ๆ เว็บต้องพึ่งการค้นหาจากกูเกิลเพียงทางเดียว

นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทมีแผนทุ่มงบประมาณ 20-30 ล้านบาท เพื่อปิดจุดอ่อน เช่น เพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับธุรกิจ และแตกไลน์จากเว็บท่าเป็นเว็บคลาสสิฟาย พร้อมกับการขยายธุรกิจในส่วนของอีคอมเมิร์ซ

"อีคอมเมิร์ซเป็นเทรนด์ที่กำลังมา ถ้าไม่รีบเปิดบริการอาจทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจได้ ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะไปซื้อเว็บไซต์ลักษณะนี้มาเลยดีมั้ย เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างด่วน ถ้าจะสร้างเองอาจจะช้าไป"

พร้อมกับการเปิดรับสมัครทีมงานเพิ่มอีก 30% เพื่อเข้ามาช่วยรับผิดชอบในส่วนธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตของเว็บไซต์ โดยคาดหวังว่าปีนี้จะขยับ UIP ให้เพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านราย พร้อมกับรายได้จากโฆษณากว่า 100 ล้านบาท จากที่ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านบาท จากปี 2554 รายได้จากโฆษณาอยู่ที่ 40 ล้านบาท เพราะด้วยจำนวนผู้เข้าเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้น และศักยภาพของสื่อออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกว่า ทำให้เจ้าของสินค้าหันมาใช้งบฯกับสื่อออนไลน์มากขึ้น

"จากที่เราทำคอนเทนต์มากว่า 9 ปี ทำให้เริ่มจับทางได้แล้วว่าเรื่องแบบไหนที่จะถูกใจคนไทย เพราะเราเป็นบริษัทคนไทย เงินทุนไม่หนาเหมือนคู่แข่ง จะไปทุ่มงบฯการตลาดหนัก ๆ ก็ไม่ได้ ทำได้เพียงสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค"

นายปรเมศวร์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามแผนอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะนำกระปุกดอตคอมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะเว็บจะมีรายได้ถึง 200-300 ล้านบาท ตามเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากที่เมื่อปี 2553 กระปุกฯมีแผนเข้าตลาดเอ็มเอไอ แต่ต้องล้มเลิกไปเพราะไม่พร้อมในหลาย ๆ อย่าง

นายปรเมศวร์กล่าวว่า ปีหน้าจะเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจเว็บไซต์ โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของบริการ 3G จะเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะการเข้าถึงเว็บผ่านมือถือปัจจุบันอยู่ที่เพียง 10% แต่หลังจากที่มีการเปิดให้บริการ 3G ในปีนี้ เชื่อว่าจะทำให้จำนวนผู้ใช้บริการผ่านมือถือเพิ่มอย่างก้าวกระโดด และทำให้ UIP ของเว็บเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้ UIP ของเว็บจะขึ้นไปที่ระดับมากกว่า 1 ล้านรายต่อวัน ซึ่งผู้ให้บริการเว็บไซต์ก็จะต้องปรับตัวเพื่อรองรับการใช้งานผ่านมือถือมากขึ้น ขณะที่คาดว่าตลาดโฆษณาออนไลน์ก็จะเพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 5-8% ของตลาดโฆษณารวมกว่าแสนล้านบาท

ขณะที่นายกฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการด้านธุรกิจเนื้อหาและบริการ บริษัท สนุกออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์สนุกดอตคอม เปิดเผยว่า การที่ UIP ของสนุกดอตคอมตกไปอยู่อันดับ 2 ไม่ได้เป็นเรื่องหนักใจ เพราะการวัดสถิติของสนุกฯไม่ได้ใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์ทรูฮิตส์อย่างเดียว แต่จะใช้เว็บไซต์ต่างชาติอย่าง Comscore และ Effective Measure ด้วย ซึ่งทั้งสองเว็บนี้สนุกฯยังเป็นที่หนึ่ง เพราะทรูฮิตส์วัดแค่ตัวเลข UIP แต่บางบริษัทมี IP แค่ 2-3 ตัว ขณะที่มีพนักงานเข้าใช้เว็บพร้อมกันเป็น 100 คนก็ได้ แต่สองเว็บหลังจะคำนวณการเข้ามาใช้ถึงระดับบราวเซอร์ ทำให้รู้จำนวนที่ชัดเจน ซึ่งตอนนี้สนุกฯผู้ใช้จริงกว่า 5.4 ล้านรายทุกวัน เป็นอันดับหนึ่งในไทย และทิ้งห่างคู่แข่งพอสมควรโดยปีนี้จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไทยมีกว่า 25 ล้านคน มีผู้เข้าเว็บไซต์สนุกฯกว่า 75% หรือ 18 ล้านคน ซึ่งจำนวนนี้เติบโตจากปีที่แล้วกว่า 20% ซึ่งมากกว่าการเติบโตของตลาดรวมที่เพิ่มขึ้นประมาณ 17.5%

"เราไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ เพราะเอเยนซี่ที่จะเข้ามาซื้อโฆษณาก็คงไม่ได้ดูแค่ทรูฮิตส์อย่างเดียว คงดูเว็บอื่น ๆ ประกอบด้วย และส่วนใหญ่ก็ยังเชื่อใจว่าสนุกฯเป็นเว็บอันดับหนึ่งของไทย ผ่านคอนเทนต์ที่ดึงดูดผู้บริโภคเข้ามาเยอะที่สุด นอกจากนี้คู่แข่งอีกไม่นานก็น่าจะถึงทางตันด้วย เพราะจำนวน UIP มีจำนวนจำกัด ซึ่งถ้าทางนั้นไม่พัฒนาคอนเทนต์ให้ดีขึ้น ก็อาจจะตามเราไม่ทันในแง่จำนวนผู้ใช้จริง"

ส่วนการแข่งขันในปีนี้ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก เพราะทุกเว็บท่าก็พยายามแย่งชิงผู้บริโภค ด้วยการสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบที่หลากหลาย โดยเฉพาะการพัฒนาคอนเทนต์ลงในเว็บแพลตฟอร์มแท็บเลตมากขึ้น โดยตอนนี้ครอบคลุมกว่า 70% ของเนื้อหาบนหน้าเว็บหลักแล้ว เพราะเทรนด์โมบายค่อนข้างมาแรง ถ้าใครไม่ทำก็คงไปต่อไม่ได้ ซึ่งในกรณีนี้ก็ทำให้จำนวนทราฟฟิกที่เข้ามาจากโมบายเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า โดยตอนนี้อยู่ที่ 10% จากจำนวน page view ทั้งหมด

นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมปล่อยหน้าเว็บเวอร์ชั่นมือถือตัวใหม่ เพื่อให้การใช้งานคล่องตัวมากขึ้น นอกจากแท็บเลตและแอปพลิเคชั่นที่เปิดตัวไปก่อนแล้ว อีกทั้งหน้าเว็บไซต์บนพีซีรูปแบบใหม่จะทำให้การใช้งานของผู้บริโภคง่ายขึ้น

 

ที่มา:http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1351440973&grpid=&catid=06&subcatid=0600

 

Go to top